ปี: 2021

ซึ่งแน่นอนเลยว่าจะเป็นวิธีการรักษาอย่างง่ายๆ วิธีการรักษาโควิดด้วยตัวเองที่บ้าน โดยการใช้ยาที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไปและสิ่งของที่อยู่รอบตัวของเรา และในบทความนี้เราก็ไม่ได้แนะนำให้คุณรักษาโรคติดเชื้อโควิดด้วยตัวเองถ้าหากว่าเราสงสัยว่าติด covid-19 อย่างแรกคุณจะต้องไปโรงพยาบาลก่อนเสมอ 

โดยจุดประสงค์ของเราก็คือได้มีผู้ป่วยหลายคนไม่ได้เตียงโรงพยาบาลเต็มป่วยเยอะเตียงเต็มหาที่รักษาไม่ได้ 

ดังนั้นก็อาจจะใช้วิธีนี่ของเราเพื่อเป็นการรักษาตัวเองประคับประคองเอาไว้ก่อนเพื่อที่จะได้รอเจอหมอเอาไว้ก่อนก็ได้ในความคิดของเรา ในอัตราที่ผู้ป่วยปัจจุบันติดเชื้อวันนึงเป็นพันกันหลายวันยังไงแล้วโรงพยาบาลในอนาคตของประเทศไทยก็ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ covid19 ได้ทุกคนแน่นอนต้องมีบางคนที่จะไปรักษาตัวเองอยู่ที่บ้านแน่นอน

นอกจากนี้โรงพยาบาลใหญ่ๆก็ได้คุยเรื่อง Home isolation เอาไว้เรียบร้อยแล้วโดยเป็นการให้ผู้ป่วยที่มีอาการที่ไม่หนักมากผู้ป่วยความเสี่ยงต่ำรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน ดังนั้นเราขอทวนความรู้กันสักเล็กน้อยว่าอาการของโควิด 19 นั้นเป็นอย่างไร 

เพราะฉะนั้นแล้วอาการที่เราจะสามารถพบเจอกันได้อยู่บ่อยๆ ก็จะเป็นเรื่องของไข้ไอเจ็บคอจมูกไม่ได้กลิ่นลิ้นไม่รับรสหรือบางคนก็อาจจะมีอาการท้องเสียร่วมด้วยบางคนก็จะมีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อปวดเมื่อยตัวตามมา 

หากคุณมีอาการดังกล่าวแล้วรวมกับประวัติอยู่ในพื้นที่เสี่ยงประวัติว่าติดต่อผู้คนที่หลากหลายหรือแม้กระทั่งมีประวัติคนใกล้ชิดติดโควิด 19นั่นก็แปลว่าเราอาจจะเป็น covid19 อยู่ก็ได้ สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำหากว่าคุณมีประวัติเสี่ยง ก่อนอื่นเลยคุณจะต้องไปโรงพยาบาลก่อนเสมอ 

เพื่อทำการตรวจดูว่าคุณนั้นเป็นโควิดจริงหรือเปล่าโดยผลตรวจมันก็จะเป็นได้ทั้งสองหน้าก็คือไม่เจอเชื้อกับเจอเชื้อในกรณีที่เราไม่ได้พบเชื้อมันก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเป็นโรคโควิด 19 บางทีเชื้อมันก็ยังไม่ทันซักก็จะทำให้การตรวจนั้นไม่พบเชื้อโควิด 19 ถ้าหากประวัติมีการสุ่มเสี่ยงมากเราขอแนะนำว่าให้คุณเข้าไปตรวจอีกสักครั้งหรือสองครั้งนั่นเอง

แต่ปกติแล้วทางโรงพยาบาลก็จะทำการตรวจซ้ำกันอยู่แล้วต่อมาในกรณีถ้าหากว่าคุณพบว่าคุณนั้นติดเชื้อโควิค 19 ถ้าโรงพยาบาลรับเราเอาไว้ทำการรักษาอันนี้ก็ไม่เป็นไรอยู่ในความดูแลของหมอแล้วปลอดภัย 

สำหรับบางคนที่ร่างกายแข็งแรงอายุไม่มากโรคประจำตัวไม่มีในอนาคตอาจจะเกิดการทำ Home Solution ขึ้นหมายถึงทำการรักษาตัวเองอยู่ที่บ้านนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  สูตรหวยยี่กี หวยดี

ถ้าอยากให้น้ำหนักลด  เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับเรื่องของการลดน้ำหนักเนื่องจากว่าอาจจะไปฟังคนอื่นเขาแนะนำวิธีการลดน้ำหนักมาหรืออาจจะไปดูศึกษาข้อมูลจากทางอินเทอร์เน็ตหรือ YouTube มาซึ่งข้อมูลนั้นอาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง  ส่วนใหญ่แล้วคนลดน้ำหนักนั้นมักจะทำตามกันมาตามคำบอกเล่าของคนอื่นซึ่งพอลองทำดูแล้วมันก็ไม่ได้ผลแต่ตัวคุณเองก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณไม่ได้ผล

           ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของการลดน้ำหนักให้คุณทราบกันว่าถ้าคุณอยากจะลดน้ำหนักได้เร็วนั้นคุณควรจะต้องงดการกิน 2 สิ่งนี้ในช่วงเวลาเย็นแต่ก่อนที่คุณจะรู้ว่าสองสิ่งที่เราจะแนะนำคนนั้นคืออะไรคุณต้องรู้ก่อนว่าร่างกายของคุณนั้น มีระบบพลังงานที่ใช้งานอยู่นะ 2 ระบบด้วยกันนั่นก็คือการใช้พลังงานน้ำตาล กับการใช้พลังงานไขมัน 

            ดังนั้นหากว่าร่างกายของคนนั้นมีน้ำตาลร่างกายของคุณก็จะดึงพลังงานจากน้ำตาลมาใช้ก่อนโดยที่ยังไม่มีการดึงพลังงานจากไขมันมาใช้ ดังนั้นข้อมูลที่เรารู้กันดีว่าการที่เราอยากจะผอมนั้นเราควรที่จะไม่กินของมันหรือของทอดต้องออกกำลังกายเยอะๆมันจึงไม่สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้นั่นเอง ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าถ้าคุณกินอาหารเย็นที่มีน้ำตาลเยอะมันก็จะไม่ช่วยทำให้คุณนั้นสามารถลดน้ำหนักได้เลย 

           ดังนั้นเรามาดูกันว่าอาหารที่เราห้ามกินในตอนเย็นที่เราเคยเข้าใจว่ากินแล้วเราจะลดความอ้วนได้นั้นมีอะไรบ้างซึ่งวันนี้เราจะนำมายกตัวอย่างให้ดูอยู่ 2 อย่างด้วยกัน

          สลัดผัก  เชื่อว่าหลายคนต้องมีความคิดว่าการกินสลัดผักในช่วงเวลาเย็นนั้นจะช่วยทำให้เราลดความอ้วนได้แต่คุณรู้หรือไม่ว่าสลัดผักนั้นเราควรจะต้องมีการเลือกกินด้วยเพราะถ้าสลัดผักของคุณมีอาหารประเภทหัวเยอะเกินไปมันจะทำให้คุณไม่สามารถลดความอ้วนได้เพราะอาหารประเภทหัวนั้นมันจะเป็นอาหารที่มีน้ำตาลค่อนข้างเยอะ  สำหรับประเภทหัวนั่นก็คือข้าวโพด   หอมหัวใหญ่  เผือก  มัน ฟักทอง ซึ่งผักต่างๆเหล่านี้จะให้สารที่มีความหวานเยอะอย่างเช่นข้าวโพดนั้นคุณกินเพียงแค่ครึ่งฝักก็เหมือนกับคุณกินข้าวก็ไป 1 ถ้วยแล้วเพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดถ้าอยากลดน้ำหนักห้ามกินสลัดผักในช่วงตอนเย็นเพราะแป้งสูง

       ผลไม้  คนมีความเชื่อว่าถ้าอยากจะผอมนั้นตอนเย็นก็ไม่ต้องกินข้าวและให้เปลี่ยนมากินผลไม้แทนแต่คุณรู้หรือไม่ว่าผลไม้ของไทยนั้นส่วนใหญ่และมีรสชาติที่หวานมากๆดังนั้นเมื่อคุณกินผลไม้เพราะไปนั้นคุณก็จะได้แป้งกับน้ำตาลเพียงเท่านั้นซึ่งเมื่อคุณได้แป้งกับน้ำตาลมาต่อให้คุณกินผลไม้มากเท่าไหร่มันก็ไม่สามารถที่จะทำให้คุณลดความอ้วนได้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.  WM Casino

      การกินวิตามินซีเวลาไหน ascorbic Acid หรือวิตามินซี  เป็นสารอาหารที่มีความปลอดภัยสูงโดยปกติ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าวิตามินซีที่เราคิดว่ามันมีประโยชน์ต่อร่างกายนั้นหากเราทานมากจนเกินไปมันก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกันจึงได้ว่าผลเสียนั้นจะไม่ส่งผลรุนแรงต่อการเสียชีวิตของเราก็ตามเรามาดูกันว่าถ้าหากเราจะกินวิตามินซีแล้วปลอดภัยไม่เกิดอันตรายเราควรกินในปริมาณที่เท่าไหร่และควรกินเวลาไหนจะดีที่สุด 

         คุณรู้หรือไม่ว่าคนเรานั้นโดยปกติแล้วไม่ได้ต้องการวิตามินซีมากสักเท่าไหร่นักโดยปกติแล้วมีเด็กนั้นต้องการวิตามินซีเพียงแค่ประมาณ 20 -50 มิลลิกรัม  ต่อวันเพียงเท่านั้นซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงอายุของเด็กด้วยส่วนตัวผู้ใหญ่นั้นจะต้องการวิตามินซีต่อวันเพียงแค่ประมาณ 50-  100 มิลลิกรัมเพียงเท่านั้น  

  ซึ่งดูแล้วปริมาณที่ร่างกายได้เยอะมากเลยโดยปกติแล้วเราสามารถรับวิตามินซีได้จากสารอาหารที่เรากินเข้าไปไม่ว่าจะเป็นจากผักหรือแม้แต่ผลไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงยกตัวอย่างเช่นฝรั่งหรือมะขามป้อมรวมถึงมะขามเทศ รวมถึงผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เป็นต้น   

        คุณจะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้มีการนำวิตามินซีมาแปรรูปเป็นเม็ดยา เพื่อให้คนกินง่ายโดยตามท้องตลาดนั้นจะเห็นได้ว่าวิตามินซีนั้นมีขายตั้งแต่ 1 เม็ด 500 mg หรือ 1000 mg ก็มีแต่จริงๆแล้วในวันหนึ่งนั้นร่างกายของคนเราไม่ควรที่จะกินวิตามินซีมากเกินกว่า 3000 มิลลิกรัม  พร้อมเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกินวิตามินซีต่อวันนั้นมากเกินกว่า 300 mg

มันจะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณทันทีเพราะวิตามินซีมันจะตกค้างอยู่ในร่างกายของคุณและผลเสียที่ตามมานั่นก็คือ จะมีอาการปวดท้องคลื่นไส้และอาเจียนเยอะเลยทีเดียว  นอกจากนี้วิตามินซีที่จะถูกขับออกจากร่างกายนั้นจะมีการตกผลึกระหว่างที่มีการไหลออกมาตามท่อปัสสาวะซึ่งจะส่งผลทำให้คุณเป็นนิ่วได้และจะส่งผลเสียอันตรายมากเลยทีเดียวถ้าหากว่าคุณเป็นโรคนิ่ว

         ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการทานวิตามินซีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงอยากจะให้หน้าตาสดใสแล้วเราก็ 1 วันนั้นคุณควรจะกินวิตามินซีไม่เกินวันละ 1000 – 2000 มิลลิกรัมเพียงเท่านั้น  ส่วนเวลาที่จะทานนั้นคุณสามารถเลือกทานได้เลยว่าจะทานตอนเช้าหรือว่าตอนเย็น ก็ไม่แตกต่างกัน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือคุณควรจะทานระหว่างมื้ออาหาร หรือหลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กินวิตามินซีทันทีเพราะมันจะช่วยลดอาการปวดท้องให้คุณได้นั่นเอง               

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  เว็บหวย จ่าย บาทละ 97

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นโรคที่สามารถพบได้บ่อยมาก ๆ ในกรุ๊ปโรคของการเสื่อมของเซลล์ควบคุมที่โดดเด่น คือ กล้ามเนื้อ ทั้งยังในส่วนของสมอง แล้วก็ไขสันหลัง โดยมีลักษณะอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยเพลียแรงและก็ลีบเล็กลงเรื่อย รอบ ๆ บริเวณ มือ แขน ขา หรือเท้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อน แล้วก็ต่อมาก็เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งลุกลามไป ทั้งยัง 2 ข้าง ร่วมกับมีลักษณะอาการกว่า 70% จะเริ่มเป็นที่รอบ ๆ

แขนขาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อนที่จะแพร่กระจายไปสู่กล้ามเนื้อในบริเวณอื่น ๆ  อาทิเช่น กล้ามเนื้อที่ใช้กลืน กล้ามเนื้อเกี่ยวกับระบบหายใจ มีผลทำให้ผู้เจ็บป่วยไม่สามารถพูดได้ หรือหายใจได้ด้วยตนเอง หายใจไม่สะดวกรวมทั้งหอบอิดโรยจากการที่กล้ามเนื้อดังกล่าวที่ใช้สำหรับเพื่อการหายใจมีอาการไม่ปกติ ก็เลยจะต้องใช้เครื่องที่ใช้สำหรับในการช่วยหายใจ แล้วก็รับประทานอาหารผ่านสายยาง จวบจนกระทั่งเสียชีวิต

ในกรุ๊ปที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จริง ๆ แล้วสามารถเจอได้ทุกเพศ และทุกวัย โดยจะพบจากแสนคนจะเจออยู่ประมาณ 4-6 ราย สามารถพบได้ทั่วไปในวัย 40-60 ปี ผู้ชายพบได้มากกว่าหญิง จำนวนมากจะมีชีวิตอยู่หลังจากเป็นโรคนี้ได้เพียง 3-4 ปี มีเพียงแค่ 10% ที่อยู่ได้ถึง 10 ปี ขณะการดูแลและรักษาทำเป็นเพียงแค่ทะนุถนอมอาการแค่นั้น

ต้นเหตุของ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงแอลเอส เกิดจากอะไร

ในขณะนี้ยังไม่มีใครที่รู้ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคได้จริง ๆ ซึ่งโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงดังกล่าว เกิดขึ้นได้เพราะมีต้นสายปลายเหตุเนื่องมาจากหลาย ๆ เหตุ หลาย ๆ ปัจจัยทำให้เกิดโรคด้วยกัน ดังเช่นว่า เป็นผลมาจากเซลล์ประสาทหมดสภาพ หรือถูกทำลาย โดยที่เซลล์ประสาทในส่วนนี้จะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหว โดยการคาดเดาจากการวิจัยมั่นใจว่าโรคนี้มีเหตุมาจากหลายต้นเหตุด้วยกัน และก่อเกิดโรคด้วยกัน เช่น สาเหตุทางพันธุกรรม ต้นเหตุทางสภาพแวดล้อม โดยมีอดีตทีเคยสัมผัสกับโลหะ หรือสารเคมีบางจำพวกที่อาจก่อให้ประสาทนำคำสั่งการดำเนินงานเปลี่ยนไปจากปกติ

การคุ้มครองปกป้องตัวเองให้ห่างไกลจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

โรคนี้ไม่เจอที่มาของการเกิดโรคที่กระจ่างก็เลยยังไม่มีแนวทางคุ้มครองปกป้องได้ 100 % แต่ว่าพวกเราสามารถให้ความเอาใจใส่กับการลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคได้ ดังต่อไปนี้

– บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพแข็งแรง

– เลี่ยงการสูบยาสูบ รวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์

– หลบหลีกการสัมผัสกับสารเคมี หรือรังสีที่เกิดอันตรายต่อทางร่างกาย อย่างเช่น โลหะหนัก ยากำจัดแมลง ฯลฯ

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ถึงแม้ว่าจะมีอัตราหรือจำนวนผู้ป่วยในปริมาณน้อย ไม่รู้ต้นเหตุที่ชัดเจน และไม่มีการรักษาให้หายได้จริง ๆ ก็เลยเป็นโรคที่ออกจะน่าสยดสยอง การดูแลรักษาสุขภาพตัวเองก็เลยเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเหตุว่าการปกป้องตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ย่อมดีมากกว่าการดูแลรักษาที่ไม่เคยรู้ว่าจะหายหรือเปล่า

 

สนับสนุนโดย.  เว็บหวย huaydee ดี ไหม

ปัญหาจุดซ้อนเร้นเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกับผู้หญิงอย่างเรา ๆ เพราะการที่น้องสาวของเรามีกลิ่งที่ไม่พึ่งประสงค์อาจเป็นปัญหากวนใจที่อาจส่งผลให้เราเสียความมั่นใจไปในตัวเองไปได้เป็นอย่างมาก ตกขาวมีกลิ่น ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงโดยเกิดจากการที่ร่างกายมีการปรับเปลี่ยนปริมาณของแบคทีเรีย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าหากว่าการเป็นตกขาวแบบปกติก็ไม่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเรา แต่เมื่อไหร่ที่การเป็นตกขาวแบบไม่ปกติ เช่น ตกขาวมีสิที่เปลี่ยนไปจากเดิน หรือตกขาวมีกลิ่มเหม็น ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเรากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรบ้าง

ตกขาวมีกลิ่น ดังนั้น การที่น้องสาวของเรามีกลิ่งเหม็นที่ไม่พึ่งประสงค์ก็อาจทำให้เราเกิดความเขินขาย จึงต้องหาวิธีในการรักษาอาการเหล่านี้ให้หายไป บางคนเลือกที่จะกินยาเพื่อลดการเกิดตกขาว หรือบางคนอาจใช้วิธีบ้านที่มีความเชื่อก็ได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ โดยการเลือกรับประทานอาหาร หรือการหันมาดูแลตนเองมากขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็ได้มีวิธีการดีดีที่จะมาแชร์ให้กับผู้ที่พบเจอกับปัญหาการมีตกขาว หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น สามารถทำได้ง่าย ๆ เลยคือ 

การรับประทานนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ตเป็นประจำ

แน่นอว่า โยเกิร์ตกับนมเปรี้ยวสามารถแก้ปัญหาการเป็นตกขาว หรือปัญหาเกี่ยวกับจุดซ้อนเร้นของเราได้เป็นอย่างดี เพราะในนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ตนั้นจะมีปริมาณของแบคทีเรียผสมอยู่ และหากรว่าร่างกายของเราเกิดการมีกลิ่น หรือเกิดจากการที่แบคทีเรียไม่สมดุล หากเรารับประทานทั้งสองอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน จะสามารถเข้าไปเพิ่มความสมดุลของแบคทีเรียในร่างกายได้ นอกจากนี้แล้วยังมี แลคโตบาซิลลัส ที่ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อราที่อยู่ในช่องคลอดขอเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เลี่ยงอาหารกรดด่างสูง

การรับประทานอาหารประเภทนี้เป็นประจำ อาจส่งผลให้การสมดุลในร่างกายของเรานั้นเปลี่ยนไป เพราะอาหารประเภทที่มีกรดด่างสูง อาทิเช่น แอลกอฮอล์ เนื้อแดง หรือหน่อไม้ฝรั่ง หากเรารับประทานเป็นประจำอาจส่งผลให้ร่างกายของเราเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคได้ง่าย รวมไปถึงปัญหาของจุดซ้อนเร้นของเราด้วย ดังนั้น หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงเพื่อสุขภาพร่างกาย และการเกิดเชื้อราบนน้องสาวของเรา

ไม่สวมใส่เสื้อผ้ารัด

การที่เราสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแนบกับตัวเกินไปอาจส่งผลให้เวลาเรามีเหงื่ออกแล้วเกิดการไม่ระบาย แบคทีเรียก็จะเกิดการสะสม และอาจส่งกลิ่งที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นนั่นเอง โดยเฉพาะกับน้องสาวของเรา เพราะบริเวณนี้จะมีความชื้นเป็นปกติอยู่แล้ว และเมื่อเราสวมใส่กางเกงที่รัดแน่ ก็อาจส่งผลให้น้องสาวของเราหายใจไม่ออก หรือไม่อากาศไม่ถ่าย จนส่งกลิ่นออกมาก็ได้ ดังนั้น การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัว หรือ มีอากาศถ่ายเทได้ดี อาจเป็นวิธีเลี่ยงการสะสมของแบคทีเรีย และลดการเกิดกลิ่งที่ไม่พึงประสงค์ได้ 

 

สนับสนุนโดย.  หวยดี

ในช่วงหน้าร้อนนี้ แน่นอนว่าสาว ๆ หลายคนที่ผมยาวกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ในช่วงหน้าร้อน นั่นก็คือ การดูแลรักษาผมให้คงความสวย และหอมอยู่เสมอ แต่ทว่าการที่เราจะดูแลผมให้คงเสมอสภาพเดิมไปตลอดทั้งวันได้นั้นก็นับเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเนื่องสภาพอาการบ้านเรานั้นไม่ค่อยจะอำนวยกันสักเท่าไหร่

อาจส่งผลให้ผมของเราเกิดการอับชื้น หรือในบางครั้งก็อาจส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาได้ จึงทำให้สาว ๆ หลายคนหันมาดูแลผมของตนเอง สระผมมากขึ้น จากที่เคยสระผม 2-3 วันครั้ง ก็ต้องมาสระเป็นวันละครั้ง เพื่อป้องกันผมอับชื้นให้คงสภาพกลิ่นหอมกันอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม อย่างพึ่งเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เรามีวิธีดูแลทำความสะอาดเส้นผมของคุณ ให้คงความสวย มีน้ำหนัก และมีกลิ่นที่หอมอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าแดด หรืออากาศบ้านเราจะแรงแค่ไหนก็ไม่ต้องหวั่น จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย

  • สระผมบ่อยขึ้น เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงเคยเป็นกัน ที่ทิ้งผมไว้ประมาณ 2-3 วันโดยไม่สระ ซึ่งอาจเป็นความเคยชินของใครหลาย ๆ คน แต่เชื่อเถอะว่าทำได้แค่ช่วงหน้าหนาวเท่านั้นแหละ แต่หากอยู่ในช่วงหน้าร้อนก็คงไม่มีใครทำได้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากอากาศที่ร้อนแล้วนั้น บวกกับคนที่ผมยาว เราจำเป็นที่จะต้องสระผมให้บ่อยขึ้น หรือทุกวันจะยิ่งดี เพราะจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่มากับเหงื่อเราออกไป เพื่อสุขภาพผมที่ดี ดังนั้น หากใครที่อยากมีผมที่สวย เงางาม มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวันในช่วงหน้าร้อน ควรหมั่นสระผมทุกวัน จะช่วยให้ผมของเรามีชีวิตชีวามากขึ้น
  • การมาร์กด้วยน้ำผึ้งไข่ การมาร์กผมเป็นประจำ นอกจากจะช่วยฟื้นฟูเส้นผมของเราแล้ว ยังช่วยปกป้องผมของเราจากปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดผมเสียได้ ซึ่งการที่เราใช้น้ำผึ้งผสมกับไข่ แบ่งเป็นสัดส่วนให้เท่า ๆ กัน นำมาหมักลงบนเส้นผมของเราทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงทำสัปดาห์ละครั้ง สองครั้ง ก็สามารถมีผมที่นุ่มสละสลวย ดูเงาตลอดทั้งวันในช่วงหน้าร้อนได้อีกด้วย
  • การนวดน้ำมัน การใช้นำมันนวดผม หรือน้ำมันมะพร้าวนวดผม ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของการฟื้นบำรุงเส้นผมได้เพียงอย่างเดียว ยังส่งผลให้ผมของเรามีสุขภาพที่ดีมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการที่เรานำน้ำมันมานวดตรงบริเวณเส้นผมเป็นประจำ จะช่วยฟื้นฟูผมของเราให้มีความแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้น ในช่วงหน้าร้อนนี้ที่เราต้องออกไปท้าแดดก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะการที่เราดูแลรักษาผมเป็นประจำจะช่วยให้ผมของเรามีความแข็งรงมากยิ่งขึ้น

 

สนับสนุนโดย  aecasino

น้ำ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องสุขภาพ เรื่องของผิวพรรณ น้ำก็ย่อมเป็นส่วนประกอบสำคัญทั้งนั้น เพราะน้ำจะช่วยเข้าไปเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย หรือเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของเรา โดยปกติแล้วเราจะสามารถสังเกตได้ว่า เมื่อไหร่ที่เราดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อร่างกาย หรือร่างกายมีภาวะขาดน้ำ สุขภาพร่างกายของเราก็จะค่อนข้างไม่แข็งแรง อีกทั้งทำให้ผิวของเราไม่อิ่มน้ำ

และส่งผลให้ผิวชองเราแห้งนั่นเอง ดังนั้น ในความเป็นจริงแล้ว มนุษย์เราทุกคนจำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำให้ครบอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน จึงจะเพียงพอต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม เชื่อในสมัยนี้ก็ยังคงมีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจ และยังตั้งคำถามกันว่าทำไมเราต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็ต้องฉี่ออกมาอยู่ดี และวันนี้เราจะมายกตัวอย่างการดื่มน้ำว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมากแค่ไหน และส่งผลดีต่อด้านไหนในร่างกายของเราได้บ้าง ไปดูกันเลย

การดื่มน้ำช่วยลดน้ำหนัก รู้หรือไม่ว่าเมื่อร่างกายของเราได้รับน้ำเข้าไปเป็นจำนวนมาก จะสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้ เพราะน้ำจะช่วยเข้าไปเพิ่มพลังงาน และทำให้เรามีความอยากอาหารน้อยลงอีกด้วย ยิ่งถ้าเรากินเยอะมากแค่ไหน ก็อาจช่วยให้อยู่ท้องได้มากขึ้น อีกทั้งยังส่งผลดีต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้านอีกด้วย ดังนั้น หากใครที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ควรหันมาดื่มน้ำกันเยอะ ๆ ถึงแม้ว่าจะช่วยไม่ได้มาก หรือไม่ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว แต่อย่างน้อย ก็ช่วยให้เราลดน้ำหนักแบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปได้

การดื่มน้ำทำให้ผิวสวย การจะมีผิวที่สวยแลดูมีสุขภาพนั้น จะต้องดีทั้งภายในและภายนอก โดยปัจจัยสำคัญของการดูแลผิวที่ดีก็คือการดื่มน้ำเข้าช่วย บางคนอาจจะคิดว่าอยากมีผิวสวยทำไมต้องดื่มน้ำ แน่นอนว่าน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ไม่ทำให้ร่างกายของเราเกิดการขาดน้ำ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายเกิดการสมดุลไปทุกส่วนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำเยอะ ๆ นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักได้แล้วนั้น ยังส่งผลทำให้เรามีผิวพรรณที่สวย อิ่มน้ำ และดูมีสุขภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

การดื่มน้ำช่วยขับสารพิษ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การดื่มน้ำนั้นสามารถขจัดสารพิษที่อยู่ในร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าไตมีหน้าที่สำคัญคือ การขับสารพิษของจากร่างกาย ดังนั้น เมื่อร่างกายของเราได้รับน้ำที่เพียงพอ ก็จะยิ่งเข้าไปช่วยขับสารพิษออกมาได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้อีกด้วย 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    v9bet

การที่เพิ่มต้นไม้ในการตกแต่งบ้านจะทำให้บ้านของเราได้มีความน่าอยู่และสดชื่นแล้วนั้น จะสามารถที่จะทำให้บ้านของเรามีบรรยากาศแบบธรรมชาติที่ได้มีความน่าอยู่มากๆขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะสามารถที่จะมีการสร้างสุขภาพของเราได้เป็นอย่างดี และจะสามารถที่จะทำให้เราได้มีความสบายตามากๆอีกด้วย ซึ่งต้นไม้บ้างชนิดนั้นก็จะสามารถที่จะเพิ่มความสดชื่นในตอนที่เราได้มีการตื่นนอนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

หรือจะสามารถที่จะทำให้ผู้คนที่มีการนอนที่ยากจะสามารถนอนได้อย่างง่าย ในการที่เราได้มีการวางไว้ที่ห้องนอนอีกด้วย และจะมีต้นไม้ที่ได้มีความน่าสนใจที่จะมีการนำไปไว้ในห้องนอน หรือสามารถที่จะนำไปไว้ในบ้านนั้นจะมีดังนี้

  1. เฟิร์นบอสตัน

เป็นต้นไม้ที่เราต้องมีการดูแลเป็นพิเศษในการดูแล ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ได้มีความสวยงาม และได้มความนิยมในการปลูกไว้ในบ้าน หรือห้องนอนมากๆ เพราะว่าต้นไม้ชนิดนี้นั้นจะมีการช่วยในการดูดสารพิษต่างๆนั้นได้เป็นอย่างดี และสามารถที่จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นมากๆในตอนเช้า แต่ต้นไม้ชนิดนี้นั้นจะเป็นต้นไม้ที่มีความต้องการน้ำนั้นสูงมาก ซึ่งอยากต่อการที่จะดูแลมากๆ

2.พลูด่าง

เป็นต้นไม้ที่สามารถทำการปลูกได้อย่างหลากหลาย และเป็นต้นไม้ที่มีการทนทานต่อสภาพแวดล้อมนั้นมากๆ ซึ่งในการที่เราได้มีการปลูกในสถานที่ไม่มีแสงนั้นก็ยังจะสามารถที่จะมีกาเจริญเติบโตขึ้นได้อีกด้วย และใบของต้นพลูด่างนี้จะมีให้เราสามารถที่จะทำการเลือกปลูกได้อย่างหลากหลายอีกด้วย เช่น สีขาว สีชมพู และสีแดง เป็นต้นซึ่งต้นไม้นี้จะมีการที่ดูดสารพิษต่างๆ และสามารถที่จะทำให้เราได้มีการนอนได้อย่างสบายได้อีกด้วย

  1. ลิ้นมังกร

เป็นต้นไม้ที่มีความนิยมอย่างมากในการนำไปไว้ในห้องนอน ซึ่งในการที่เราจะมีการปลูกต้นไม้นี้ เราจะสามารถที่จะดูแลได้ง่าย เพราะต้นลิ้นมังกรนี้ต้องการน้ำเพียงแค่2-3ครั้งต่ออาทิตย์เพียงเท่านั้น และเป็นต้นไม้ที่ไม่ได้ต้องการแสงมาก ซึ่งต้นนี้นั้นมีความเหมาะสมอย่างมากสำหรับผู้ที่ได้มีโรคภูมิแพ้ และต้องการที่จะฟอกอากาศให้มีความสดชื่นมากๆ

  1. เดหลี

เป็นต้นไม้ที่มีความสวยงาม ซึ่งสามารถที่จะทำการตกแต่งบ้านได้ และการที่เราได้มีการปลูกต้นไม้ชนิดนี้นั้น จะเป็นต้นไม้ที่ไม่ได้ต้องการน้ำมากมาย ซึ่งต้องการน้ำแค่เพียง2ครั้งต่อ อาทิตย์เพียงเท่านั้น และต้นเดหลีนี้จะเป็นส่วนที่ช่วยในการลดโรคต่างๆ เช่นโรคทางเดินหายใจ โรคหอบหืด และโรคภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดีมากๆอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย    สมัคร20ฟรี100 สล็อต

 

ความเครียดเกิดขึ้นได้จากภาวะอารมณ์ของมนุษย์ ซึ่งในสมัยนี้แน่นอนว่าหลายคนคงไม่มีใครหนีพ้นจากการเกิดความเครียด เพราะเราทุกคนนั้นล้วนแต่ต้องเจอกับปัญหาต่างๆ ที่อาจทำให้ไม่สบายใจ หรืออาจจรู้สึกดันอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้ ในหลายต่อหลายครั้งคนส่วนใหญ่มักจะเจอกับความเครียดจากการทำงาน หรือปัญหาในครอบครัว ทำให้รู้สึกกังวลอยู่ตลอดเวลา

โดยภาวะนี้จะสามารถเห็นอาการที่แสดงออกมาได้อย่างชัดเจนผ่านการกระทำหรือสีหน้า รู้หรือไม่ว่าภาวะความเครียดนั้นไม่เพียงแต่ส่งผลเสียสุขภาพจิตของเราได้เท่านั้น ยังส่งผลเสียไปยังการใช้ชีวิต และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้อีกด้วย เชื่อว่าหลายคนคงมีความคิดที่ว่า ทำอย่างไรความเครียดถึงจะหายไปจากเราได้

ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีวิธีที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถบรรเทาอาการความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยตัวของคุณเอง อย่างไรก็ตาม หากใครที่ยังไม่มีวิธีการคลายเครียด หรือบรรเทาความเครียด วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำค่ะ โดยวิธีการง่าย ๆ เหล่านี้อาจจะช่วยไม่ได้มากสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเราหมั่นทำเป็นประจำก็อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยเราก็จะได้รู้ว่าวิธีการบรรเทาความเครียดนั้นเป็นอย่างไร

 

การฝึกนั่งสมาธิ เคยสังเกตกันไหมว่าทำไมคนที่ชอบนั่งสมาธิถึงได้เป็นคนที่ใจเย็นได้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งการที่เรานั่งสมาธิ จะช่วยทำให้จิตใจของเรานั้นรู้สึกผ่อนคลาย ใจเย็น และทำให้เราไม่เก็บความเครียดมาคิดมาก ซ้ำไปซ้ำมา รู้จักการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม หากคุณมีความเครียดมาก ๆ ลองหาเวลาว่าไปทำสมาธิ ฝึกทำมันบ่อย ๆ กำหนดลมหายใจเข้าออก และที่สำคัญคือควรทำสมองของตัวเองให้โล่งอยู่ตลอดเวลา เพื่อบรรเทาอาการเครียด

ให้อาหารเป็นตัวช่วย อาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถบรรเทาอาการเครียดของเราให้ลดลงได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เราตกอยู่ในสภาะเครียด จะทำให้ร่างกายอยากอาหารมากขึ้นกว่าปกติ ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาจช่วยให้คุณพ้นจากวิกฤตนี้ไปก็ได้ โดยเฉพาะสารอาหารจำพวก ธัญพืช ไข่ พืชตะกูลต่างๆ และผักใบเขียวผลไม้ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้อาจจะช่วยระษาระดับของพลังงานที่เราสูญเสียไป และทำให้สมองของเรามีการทำงานที่ดีขึ้นได้อีกด้วย 

กิจกรรมผ่อนคลาย การเอาตัวรอดจากความเครียดอีกหนึ่งวิธี คือการหากิจกรรมต่าง ๆ ทำเพื่อให้ตนเองนั้นรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็น การรออกกำลังกาย การดูหนัง หรือแม้แต่การฟังเพลง อาจจะเป็นวิธีที่ไม่สามารถบรรเทาได้ยาวนาน แต่ก็เป็นวิธีที่จะช่วยบรรเทาอาการเครียดได้เป็นอย่างดีเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าการที่เราได้ทำกิจกรรมต่างๆเหล่านี้ จะช่วยให้สมองของเรารู้สึกปลอดโปร่ง ไม่กลับมาคิดเรื่องเครียด เพราะร่างกายของเราจะคล้อยไปตามกินกรรมที่เรากำลังทำอยู่ แน่นอนว่าคุณจะลืมความเครียดที่เกิดไปเลยก็ได้ 

 

สนับสนุนโดย    กริลแอร์

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงมักดูดบุหรี่กันทั้งที่รู้ว่ามันอันตรายต่อร่างกายมาก และส่งผลเสียต่อสุขภาพเราเป็นอย่างมาก และบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำลายตนเอง แต่สามารถทำลายคนรอบข้างได้เช่นกัน โดยในบุหรี่นั้นจะมีสารนิโคติน ซึ่งเป็นสารที่สามารถช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายได้ หากร่างกายของเราได้รับสารเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

อาจส่งผลทำให้ร่างกายของเราเป็นโรคได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็งปอด และอาจส่งส่งผลเสียต่ออวัยวะอื่น ๆ ได้อีกด้วย หากคุณคิดว่าการดูบุหรี่นั้นมันดีต่อร่างกาย คุณอาจจะคิดผิดก็ได้ เพราะการดูดบุหรี่เป็นประจำสามารถทำให้คุณนั้นเสียชีวิตได้เร็วก็ได้ ดังนั้นบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำร้ายคุณ ควันบุหรี่ก็สามารถเป็นอันตรายต่อคนรอบข้างคุณได้เช่นกัน

ซึ่งในสมัยนี้โฆษณาเกี่ยวกับการดูดบุหรี่ก็มีให้คุณดูมากมายว่ามันเป็นอันตรายมากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม โรคที่ตามมาหลังจากที่คุณได้เสพติดการดูดบุหรี่ไปแล้ว นั้นอาจร้ายแรงเป็นอย่างมาก ทางที่ดีหากเลิกได้ก็ควรเลิก และวันนี้เราจะมายกตัวอย่างโรที่มาพร้อมกับการดูดบุหรี่เพื่อกระตุ้นให้คุณนั้นอยากเลิกบุหรี่ก็ได้ จะมีโรคอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • โรคระบบทางเดินหายใจ ปอดของคุณจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการดูดบุหรี่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการไอเรื้อรัง หายใจไม่ออก หายใจไม่สะดวก ปอดบวม หรือโรคระบบทางเดินหาย โดยโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ก็มีสาเหตุมาจากการดูบุหรี่ทั้งนั้น หากโรคได้เกิดขึ้น และได้ปล่อยทิ้งไว้ไม่เข้ารับการรักษา ปอดของคุณก็จะค่อย ๆ ถูกทำลายลงด้วยควันบุหรี่ จะต้องให้เครื่องช่วยหายใจในที่สุด อย่างไรก็ตาม โรคที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ โรคมะเร็งปอด ซึ่งเป็นโรคอันดับต้น ๆ ที่คนเป็นเยอะเลยก็ว่าได้ ดังนั้น หากคุณยังอยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และสมบูรณ์ ก็ควรเลิกดูบุหรี่จะดีที่สุด
  • เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ การดูดบุหรี่เป็นประจำ จะส่งผลทำให้เส้นเลือดในร่างกายของเรานั้นเกิดการอุดตันขึ้น ซึ่งจะทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงประสาทการควบคุมนั้นไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้อวัยวะเพศชายนั้นไม่แข็งตัว นอกจากนี้แล้ว ยังพบอีกว่า ผู้ที่มักดูดบุหรี่จะมีจำนวนของอสุจินั้นน้อยกว่าคนปกติ เพราะต้องเผชิญ และรับปัญหากับการโรคการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของตนเอง
  • ตาบอดถาวร นอกจากโรคอื่น ๆ ที่ร้ายแรงแล้ว ผู้ที่เสพติดการดูดบุหรี่ อาจเสี่ยงต่อการตาบอดถาวรได้ เพราะเนื่องจากผู้ที่ดูดบุหรี่จะสามารถเกิดโรคต้อกระจกตาได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ โดยสารพิษที่เข้าไปในร่างกายจะเข้าไปเร่งให้เลนส์ตาของเรานั้นมัว หรือขุ่น ตามระยะเวลาของการดูด ยิ่งถ้าเราดูดมาก ๆ ตาของเราก็จะมัวขึ้นไปเรื่อย ๆ จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการตาบอดอย่างถาวรได้

 

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์บาทละ 1000