หมวดหมู่: สุขภาพ

ตะไคร้ เป็นสมุนไพรที่ใกล้ครัวที่ทุกคนนั้นได้นำเอามาใช้ปรุงอาหารกันมาอย่างยาวนานมาได้ดูคุณประโยชน์ของมันที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

ตะไคร้ นั้นเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า Cymboppogon citratus ได้จัดให้เป็นผักล้มลุกชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะที่เป็นพุ้ม ที่ได้นำเอามาปลูกกันเพื่อเอาไว้สำหรับปรุงรสชาติของอาหาร ซึ่งตะไคร้นั้นถือว่าได้มีประโยชน์อีกทั้งยังสามารถช่วยบรรเทาอาการโรคต่างๆได้ดีแต่คุณจะรู้หรือไม่ว่า ในลำต้นที่แข็งๆนั้นและส่วนของใบตะไคร้ที่มันได้มีความคมมันได้ซ่อนคุณประโยชน์เอาไว้อย่างมากมายที่เรานั้นไม่ควรรู้มากก่อน

สำหรับคุณประโยชน์ในตะไคร้ที่มีสมุนไพรที่ใกล้ตัว

สำหรับสมุนไพรใน ตะไคร้นั้นยังอุดมไปด้วยวิตามินอีกทั้งยังมีแร่ธาตุที่ซ่อนอยู่ในตะไคร้อย่างมากมายมีทั้งวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินบี ทั้งนี้ก็ยังมีโฟเลต แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง ธาตุเหล็ก โฟแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมงกานีส นอกจากนี้ตะไคร้ที่จะเป็นเครื่องปรุงอาหารแล้วมันยังได้มีประโยชน์ทางด้านการขับไล่แมลงได้ดีเพราะในส่วนของตะไคร้นั้นในตัวตะไคร้เอง

มันจะมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ในตัวแล้วทั้งในส่วนใบและลำต้นและในส่วนของน้ำมันหอมระเหยนั้นมันได้มีคุณสมบัติในส่วนของการขับไล่แมลงเป็นอย่างดีนั่นมันก็จะไม่แปลกอะไรที่เราทุกคนนั้นจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ของสบู่และผลิตภัณฑ์ที่เอาไว้ใช้เพื่อขับไล่แมลงเพราะในส่วนผสมนั้นของสบู่ในตะไคร้นั้นมันได้มีขายอยู่เยอะแยะมากมาย

นอกจากนี้มันยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้เท่านั้นตะไคร้นั้นมันยังสามารถช่วยเข้าไปล้างสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราให้มันออกมาเป็นปัสสาวะได้บ่อยขึ้นเพราะสารเคมีที่มันได้มีอยู่ของตะไคร้นั้นมันจะทำให้ไล่ระบบของการย่อยอาหารและทำความสะอาดได้ดีขึ้นเช่น ตับ และ ตับอ่อน กระเพาะปัสสาวะ

ที่ช่วยขับไล่สารพิษด้านกรดยูริกให้ออกจากร่างกายและยังสามารถทำให้ในระบบของการย่อยคุณนั้นสะอาดดีขึ้น อีกทั้งยังทำงานให้มีคุณภาพมากขึ้น ทั้งนี้ได้ส่วนของตะไคร้นั้นยังช่วยให้ระบบของการย่อยอาหารได้ทำงานได้ดีขึ้น เพราะเนื่องจากได้มีการศึกษาและได้พบว่าการที่เรานั้นกินน้ำต้มตะไคร้นั้นมันจะสามารถช่วยในส่วนของการย่อยลดอาการปวดท้อง สามารถแก้หวัด ลดอาการของการเป็นตะคริวที่อยู่ในลำไส้และท้อเสียได้อีกทั้งมันยังสามารถช่วยในเรื่องของลดแก๊สที่มันอยู่ในลำไส้อีกด้วยแต่อย่างไรก็ตามในสรรพคุณของตะไคร้ก็ยังเป็นสมุนไพรที่ดีที่เรานั้นหาได้ไม่ยาก

เมนูอาหารใช้เวลาไม่นานทำได้ง่าย

มาม่าทรงเครื่อง

สำหรับเมนูมาม่าทรงเครื่องนั้นถือได้ว่ามีความสะดวกและรวดเร็วและยังไม่มีอะไรที่เกินไปกว่ามาม่าแต่จะให้ดีไปยิ่งกว่าก็ควรจะเพิ่มสารอาหารให้กับตัวเองด้วยการใส่วัตถุดิบใส่ลงไปให้กลายเป็นมาม่าทรงเครื่องที่มีน่าตาที่ดูน่ารับประมานมากยิ่งขึ้นและยังสามารถอับราคาให้เพิ่มมากขึ้นและยิ่งหากมาม่านั้นมีสีสันที่ดูที่น่าสนใจมีวัตถุดิบที่หลากหลายก็จะยิ่งขายได้ในราคาแค่ได้มองเห็นก็อยากจะรับประทานแล้ว

สำหรับวิธีในการทำมาม่าทรงเครื่องนั้น

(1)นำเอาไก่หรือหมูสับนำเอาไปรวนกับน้ำร้อนที่ต้มเดือดให้พอสุกจากนั้นให้ตักขึ้นมาพักไว้ก่อน 

(2)จากนั้นให้นำเอาพริกไปผสมกับ พริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลใส่ถ้วยนำเอาไปใส่ในถ้วยเตรียมเอาไว้

(3)นำเอาเส้นบะหมี่นำเอาไปต้มในน้ำร้อนให้สุกจากนั้นพอเส้นสุกได้ที่แล้วให้นำเอาไปใส่ในถ้วยที่ได้เตรียมผสมเครื่องเอาไว้แล้วจากนั้นก็จัดวางไก่สับหรือหมูสับและไข้ต้มลงไปจากนั้นโรยหน้าด้วยต้นหอมและพริกซอยสามารถอร่อยได้ทันที สำหรับต้นทุนโดยรวมประมาณ15บาทจะสามารถขายในราคาประมาณ25บาทจะได้กำไรประมาณ10บาทต่อถ้วย

ข้าวต้มกุ๊ย

สำหรับเมนูข้าวต้มกุ๊ยหรือบางคนนั้นอาจจะทำเอาไว้ตั้งแต่เย็นและพอในเวลาเช้าก็หยิบนำเอามาอุ่นและรับประทานได้เลยและถือได้ว่าเป็นเมนูที่ไม่ต้องไปอะไรมากให้ยุ่งยากรับประทานให้พออิ้มเป็นหลักและไม่จำเป็นที่จะต้องมีกับข้าวอะไรมากมายหรือในบางทีก็รับประทานกับกุนเชียงหรือปลาเค็มคุณก็จะสามารถอิ้มได้ในทันทีและถ้าหากว่าใครที่คิดจะเปิดร้านทำขายและนอกจากที่จะมีข้าวต้มกุ๊ยแล้วก็อาจจะต้องควรที่จะต้องเพิ่มกับข้าวอีกซักสองซักสามอย่างตามไปอีกด้วย

สำหรับวิธีในการทำข้าวต้มกุ๊ยนั้น 

(1)นำเอาข้าวสารไปล้างน้ำให้พอสะอาดประมาณสองถึงสามน้ำเพื่อล้างให้เศษผงหรือเศษจากข้าวสารนั้นออกจนหมดสิ้น 

(2)จากนั้นให้นำเอาไปใส่หม้อด้วยข้าวสารที่ล้างสะอาดแล้วในหม้อเติมน้ำลงไปกะให้ท้วมข้าวในปริมาณที่มากพอที่จะต้มข้าวไม่ให้แห้ง 

(3)จากนั้นให้ตั้งไฟที่ปานกลางต้มต่อไปซึ่งมันอาจจะใช้เวลามากเล็กน้อยไม่เท่ากันก็ขึ้นอยู่กับความชอบหากใครที่จะต้องการให้ข้าวเละก็ต้องใช้เวลาในการต้มข้าวนานหน่อย

(4)เมื่อได้ข้าวต้มที่ต้องการแล้วนำเอาไปเสิร์ฟรับประทานควบคู่ไปกับปลาเค็ม ไข้เค็ม ไข่เจียวได้ตามต้องการ สำหรับต้นทุนโดยประมาณ5บาทสามารถทำขายได้ในราคา7บาทกำไร2บาทต่อถ้วย

         การอาบน้ำก็มีความสำคัญกับคนเราเช่นเดียวกันหลายคนคิดว่าการที่เราเข้าไปอาบน้ำนั้นเป็นการชำระร่างกายและไม่ต้องสนใจอะไรไม่มีผลกระทบกับร่างกายของเราแต่อย่างใดแต่จริงๆแล้วการอาบน้ำที่ดีและที่ถูกต้องนั้นควรจะมีการใส่ใจรายละเอียดในขั้นตอนของการทำต่อไม่ว่าจะเป็นการเลือกสบู่ยาสระผมในการใช้หรือแม้แต่การปรับอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมกับร่างกายของเราเรามาดูกันว่าในช่วงที่เราอาบน้ำเราควรมีการดูแลตัวเองอะไรบ้าง

         อย่าว่าเวลาที่คุณอาบน้ำนั้นคุณได้มีการเลือกสบู่ที่เหมาะสมกับผิวพรรณของคุณมาใช้งานอยู่แล้วแต่การอาบน้ำที่ดีนั้นควรจะต้องใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเพื่อสุขภาพที่ดีต่อร่างกายและผิวพรรณของเราหลายคนเวลาที่อาบน้ำมักจะมีการขัดผิว ซึ่งการขัดผิวนั้นส่วนใหญ่ก็มักจะใช้อุปกรณ์ช่วยในการขัดผิวไม่ว่าจะเป็นใยบวบแม้แต่อุปกรณ์อื่นๆ

ซึ่งมีความยาวเพื่อต้องการที่จะให้ขี้ไคลหลุดออกจากร่างกายแต่การที่เราขัดผิวโดยใช้พวกใยบวบหรือพวกผ้า 7 อย่ามาขัดผิวของเรานั้นจะส่งผลทำให้ผิวหนังของเราถูกรังแกโรคผิวหนังของเราบอกบางมากการใช้ของหยาบมาโดนผิวของเรานั้นจะทำให้ผิวของเราเสียหายขึ้นมาได้ดังนั้นเราควรเปลี่ยนจากใยบวบหลวงพ่อแก้วขัดตัวเมื่อใช้เป็นผ้าขนหนูเล็กๆนิ่มๆแล้ว

สักตามร่างกายแทนไม่ต้องถูกแรงมากนักก็จะช่วยให้ผิวของเราไม่มีร่องรอยเหี่ยวย่นได้รวมถึงการคัดตัวที่ดีนั้นควรจะขัดทุกซอกทุกมุมของร่างกายส่วนใหญ่แล้วคนเรามักจะไม่สามารถเชื่อมไปขัดด้านหลังได้ถึงดังนั้นเราควรจะหาตัวช่วยเช่นตัวแปรงขัดหลังที่มีด้ามยาวๆมาช่วยขัดทางด้านหลังของเราก็จะทำให้เราสามารถขัดขี้ไคลในด้านหลังของเราออกจากผิวหนังของเราทำให้ล้างของเรามีความสะอาดขึ้นได้แต่อย่าลืมว่าเราควรจะใช้แปรงขัดหลังที่เป็นผ้านิ่มๆก็ไม่เช่นนั้น

หลังเราก็อาจจะเกิดร่องรอยของการขูดและผิวหนังอาจจะเหี่ยวย่นได้ และที่สำคัญเมื่อเราใช้พวกแฟนคลับตัวเรียบร้อยแล้วรบกวนทำความสะอาดแปรงขัดตัวของเราอยู่เสมออย่าปล่อยทิ้งไว้ให้มันชื้นอย่างนั้นเพราะมันจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคการทำความสะอาดใยขัดตัวของเรานั้นควรจะมีการใช้น้ำยาล้างทำความสะอาดทุกอาทิตย์

เพื่อที่ใยขัดตัวของเราจะได้ไม่สกปรกและที่สำคัญควรจะมีการเปลี่ยนใยขัดตัวของเราเดือนละ 1 ครั้งและควรเก็บใยขัดตัวไว้ในห้องน้ำตรงจุดที่สะดวกต่อการหยิบถึงที่สำคัญควรวางไว้ตรงจุดที่มีลมโกรกเพื่อที่ใยขัดตัวของเราจะได้แห้งเร็วไม่เปียกชื้น 

เวลาที่เราท้องอืดแน่นเกิดจากอะไร ซึ่งมันมีมากมายหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมในการกิน ในขณะที่เรากินเยอะเกิน หรือกินมากเกินหรืออาจจะกินเร็วเกิน หรือแม้แต่การเคี้ยวไม่ละเอียดก็ตาม ซึ่งทำให้มันมีผลในการทำให้คนเราท้องอืดได้เหมือนกัน แนะนำร้านอาหารบางชนิดก็ยังทำให้มันมีผลให้คนท้องอืดได้เช่นกัน

ซึ่งจะเห็นได้ว่าสำหรับคนที่มีอาการท้องอืดนั้นอาจจะเกิดจากการย่อยไม่ดีเพราะการมีระบบย่อยที่ไม่ดีนั้น มันก็จะมีผลทำให้แบคทีเรียหรือระบบที่เป็นจุลินทรีย์ของทางเดินอาหารนั้น ไม่มีกระบวนการย่อยที่เกิดขึ้นทำให้มันมีแก๊สมาขึ้นก็ทำให้มันมีอาการท้องอืดซึ่งในบางคนจะมีความรู้สึกอึดอัดท้องแน่นท้อง ทำให้บางคนนั้นมีอาการเรอออกมาซึ่งไม่ออกลงบนจะเป็นการออกลมด้านล่างนั่นเอง

หลักการป้องกันที่จะทำให้เรานั้นไม่ท้องอืดนั่นก็คือ

เราควรกินอย่างพอดีไม่กินมากจนเกินไป ไม่กินเยอะเกินเพราะช่วงเวลาไหนที่เรากินเยอะเกินไป มันจะทำให้รู้สึกแน่นและจะทำให้เกิดอาการท้องอืดขึ้นมาได้ แล้วเราควรที่จะเคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพราะหากคุณเคี้ยวไม่ละเอียดแล้ว จะส่งผลให้การย่อยอาหารย่อยได้ไม่ดี ซึ่งอาจจะเป็นภาระให้กับระบบทางเดินอาหาร ลำไส้หรือแม้แต่กระเพาะอาหาร ซึ่งอาหารบางชนิดหากเรามีการกินมันจนมากเกิน มันจะมีผลทำให้ระบบการย่อยอาหารของเหล่านั้นเกิดขึ้นได้ช้า หากมีอาหารตกค้างในกระเพาะอยู่นานก็อาจจะมีผลทำให้เกิดเสี่ยงที่จะทำให้ท้องอืดมากขึ้นก็เป็นไปได้

อาหารประเภทไหนที่คุณควรหลีกเลี่ยงสำหรับคนที่ท้องอืดนั่นเอง

กลุ่มแรกนั้นคือกลุ่มของนมวัวและผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากนมโดยเฉพาะนมวัวนั้นมันจะมีน้ำตาลที่ขึ้นชื่อว่าแลคโตสโดยมีโปรตีนตัวหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเคซีนโดยเจ้า 2 สิ่งนี้ร่างกายของเรานั้นสามารถย่อยได้ยาก

กลุ่มที่ 2 นั่นก็คือถั่วเหลือง สำหรับนมถั่วเหลืองนั้นบางคนกินแล้วรู้สึกว่าท้องอืดได้นะ แต่ถ้าหากบางคนกินแล้วย่อยได้ดีไม่มีปัญหาอะไร ก็เท่ากับว่าเขาไม่มีปัญหาแต่สำหรับบางคนนั้น มีระบบการย่อยในโปรตีนของมณฑลเหลือในบางตัวนั้น สามารถย่อยได้ยากก็ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับนมถั่วเหลืองได้เช่นกัน ซึ่งมันจะทำให้คุณนั้นท้องอืดได้

กลุ่มที่ 3 ก็คือพวกธัญพืชทั้งหลายแหล่ อย่างเช่นถั่วทั้งหลายแหล่เนื้อบางคนกินเข้าไปทำให้รู้สึกว่าท้องอืดได้ เพราะมันสามารถย่อยได้ยากส่วนใหญ่ในส่วนนั้นจะมีพรีไบโอติก ซึ่งมันอาจจะมีผลทำให้ท้องอืดได้

กลุ่มที่ 4 นั่นก็คือจำพวกขนมปัง ซึ่งพวกขนมปังนี้ก็เป็นพวกเบเกอรี่หรือโดนัดโดยเหล่านี้จะมีแป้งสาลีเป็นส่วนประกอบซึ่งมันจะมีสารชื่อว่ากูเต้นอยู่ในส่วนประกอบของพวกนี้ โดยหากบางคนมีการกินเข้าไปแล้วจะสามารถทำให้เกิดการย่อยได้ยากซึ่งเป็นต้นเหตุของการท้องอืดนั่นเอง

ในช่วงที่สถานะเศรษฐกิจยังไม่ค่อยดีและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ยังคงมีอยู่ การเดินทางออกนอกบ้านเพื่อไปซื้ออาหารการกินจึงเป็นเรื่องที่อันตรายมากเพราะเราไม่รู้ว่าคนที่ไปเดินในตลาดนั้นไม่มีใครที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19หรือไม่อย่างนั้นกันปลูกผักทานเองจึงเป็นสิ่งสำคัญและสมควรทำในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างยิ่ง

แต่สำหรับหลายๆคนที่อาจจะไม่มีพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกมากนักเราจะมีวิธีการปลูกผักแบบง่ายๆและไม่ยุ่งยากแถมไม่เปลืองพื้นที่มาฝากกันซึ่งวันนี้จะเป็นการแนะนำการปลูกผักบุ้งในตะกร้ามีวิธีการยังไงบ้างมาดูกันเลยค่ะ

      ก่อนอื่นเราต้องนำเมล็ดผักบุ้งมาแช่น้ำเอาไว้โดยการแช่ค้างคืนไว้ 1 คืน หลังจากนั้นให้นำผ้าที่คิดว่าเป็นผ้าที่อุ้มน้ำไปชุบน้ำบิดพอหมาดหมาดแล้วนำเมล็ดของผักบุ้งที่เรามีการแช่เอาไว้ 1 คืนมาใส่ในภาพดังกล่าวนำผ้าไปห่อเมล็ดผักบุ้งให้มิดชิดหลังจากนั้นนำผ้าที่ห่อเมล็ดผักบุ้งไปใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้น

เมื่อเราแกะผ้าออกมาดูแล้วจะเห็นว่าเมล็ดผักบุ้งที่เรามีการห่อไว้เมื่อคืนที่ผ่านมามีรากโทรออกมาเล็กน้อยหลังจากนั้นให้เราเตรียมน้ำใส่กะละมังแล้วนำตะแกรงซึ่งมีรูตรงก้นมาวางบนกาละมังที่เรามีกันใส่น้ำเอาไว้ด้วยให้ตะแกรงแตะกับพื้นน้ำพอดีห้ามให้น้ำสูงจนเกินไปเสร็จแล้วให้นำต้นอ่อนของผักบุ้งซึ่งมีรากแล้วมาวางในตะแกรง

โดยหย่อนเอารากลงไปแช่ในน้ำ วางทีละต้นให้ครบเต็มตะกร้า และหาต้นไหนที่ยังไม่ขึ้นรากเราก็สามารถนำมาโดยตรงช่องว่างที่เหลือได้ หลังจากนั้นก็นำผ้าชุบน้ำให้หมาดๆแล้วนำมาปิดทับหน้าเมล็ดผักบุ้งเอาไว้ จะสังเกตเห็นว่าแค่เพียงวันที่ 2 เท่านั้นร่างของผักบุ้งก็จะโผล่ยาวขึ้นเราจึงต้องมีการเติมน้ำในกะละมังแล้วนำตะกร้ามาแช่น้ำไว้เหมือนเดิม

ปิดผ้าไว้เหมือนเดิมซึ่งต้องทำแบบนี้ทุกๆวันโดยประมาณซักวันที่ 3 หรือวันที่ 4 ให้สังเกตว่ารากของผักบุ้งแช่ลงไปในน้ำครบทุกต้นแล้วหลังจากนั้นเราก็เอาผ้าออกไม่ต้องคลุมน้ำแล้วก็ปล่อยให้ต้นโตขึ้นได้ตามปกติ ประมาณไม่เกิน 7 วัน

ก็สามารถนำต้นของผักบุ้งมาทานได้แล้วโดยจะเป็นต้นอ่อนของผักบุ้งซึ่งเราสามารถปรับรากแล้วก็นำมาทำประกอบอาหารได้เลยเพียงเท่านี้เราก็ไม่ต้องไปหาซื้อผักนอกบ้านให้ยุ่งยากและไม่ต้องเสี่ยงอันตรายต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19แล้วค่ะ 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  next88