หมวดหมู่: ท่องเที่ยว

วันหยุดนี้ใครยังไม่มีที่ท่องเที่ยวที่ไหนมาทางนี้กันเลยวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนนั้นห้ามพลาดสถานที่ท่อเที่ยวของจังหวักบึงกาฬให้ทุกคนและเพื่อนๆได้รู้จักกันรับรองว่าแต่ละที่นั้นสวยและบรรยากาสดีและถูกใจเพื่อนๆอย่างแน่นอนอย่ารอช้ามาดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง เริ่มต้นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดบึงกาฬและเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์

หินสามวาฬ ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ 

ที่นี่เป็นโขดหินทรายขนาดใหญ่ที่จะมีรูปร่างคล้ายปลาวาฬได้แยกออกเป็นสามก้อนขนาดลดต่างกันไปมองดูแล้วคล้ายเป็นปลาวาฬพ่อแม่ลูกกำลังว่ายน้ำอยู่เคียงกันเป็นที่สวยงามแปลกตามากๆเลย หินสามวาฬนั้นได้ตั้งอยู่ในตะวันออกของภูสิงห์พื้นที่อนุรักษ์สัตว์สงวนแห่งชาติถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวและจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงามมองเห็นป่าสุดลูกหูลูกตาและยังมองเห็นแม่น้ําโขงอีกด้วยซึ่งถ้าใครจะแวะมาท่องเที่ยวที่นี่ในช่วงหน้าฝนขอแนะนำให้ใส่ลองเท้าที่มีดอกยางเยอะๆเกาะพื้นได้ดีสักหน่อยนะจะได้เดินเที่ยวได้สบายๆไม่ต้องกว่าลื่น

ภูทอก ต.นาแสง อ.ศรีวิไล

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดซึ่งเป็นเขาสองลูกขนาดเล็กใหญ่ที่นี่เป็นศาสนสถานซึ่งจะมีบันไดเวียนและสะพานไม้วนอยู่ด้านรอบๆเขาเป็นทางไปสู่จุดชมวิวสถานปฏิบัติธรรมและวันเจดีย์คลีวรวิหารหรือวัดภูทอกที่อยู่ด้านบนสำหรับสถานที่ภูทอกนั้นมีทั้งหมด7ชั้นและชั้นที่ผู้คนนิยมขึ้นกันไปมากที่สุดก็คือชั้น6ที่จะเป็นหน้าผายื่นออกมาเป็นเพื่อเป็นจุดชมวิวต้องของบอกเลยว่าจุดชมวิวของสถานที่แห่งนี้นั้นสวยไม่แพ้กับที่อื่นเลยที่เดียวและส่วนใครที่รับสงบชอบธรรมะและอยากจะมานั่งสมาธิก็สามารถขึ้นมาได้ที่ชั้น5เพราะว่าชั้นนี้จะประดิษฐานพระพุทธรูปและจะมีกุฏิของพระมีบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะแก่การมานั่งสมาธิและปฏิบัติธรรมทำใจให้สงบร่มเย็นเอามากๆเลยแหละ

น้ำตกถ้ำพระ ต.โสกก่าม อ.เซกา

สถานที่แห่งนี้เป็นน้ำตกที่สวยที่ใครหลายคนต่างก็มุงหน้ามาที่นี่และมมาเช็คอินกันเพราะอยากมาลองเล่นสไลเดอร์แบบธรรมชาติที่ต้องขอบอกเลยว่าเราลองแล้วจะสนุกสุดๆติดใจจนอยากจะกลับไปเล่นซ้ำอีกรอบแต่จะขอแนะนำให้มาเที่ยวในหน้าฝนจะดีกว่าส่วนการเดินทางไปที่นำตกถ้ำพระจะต้องนั่งเรือเข้าไปประมาณ20นาทีและจะต้องเดินต่อไปประมาณ300เมตรซึ่งน้ำตกที่นี่จะมีสามชั้นโดยชั้นที่1จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในหน้าผาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มากราบสักการะบูชาได้อีกด้วย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  BK8

พาชมความงดงามธรรมชาติเมืองไทย 3 สถานที่ 3 สีสัน

ประเทศไทยของเรามีสถานที่ทางธรรมชาติดที่สวยงามมากมายหลายพื้นที่ แต่ละที่ก็จะมีขอดีแตกต่างกันออกไป หลายคนนิยมไปเที่ยวยังสถานที่ที่เป็นธรรมชาติ แต่ชอบความมีสีสันที่สวยงาม อย่างเช่น การไปชมความงามของพวกดอกไม้ วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจำนวน 3 แห่งที่แต่ละแห่งจะมีสีสันแตกต่างกันออกไปทำให้คุณไปเที่ยวแล้วจะไม่รู้สึกเบื่อกันเลยค่ะ

 สีแดงสดใส

         สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสีแดงที่เราจะพาไปชมความงามกันวันนี้ก็คือสีแดงของใบเมเบิ้ล ที่ภูกระดึงจังหวัดเลย ประเทศไทยของเราก็มีความสวยงามของใบไม้ที่มีสีแดงสดใส ซึ่งเราไม่ต้องอิจฉาต่างประเทศที่เรามักจะเห็นในซีรีย์กันอีกต่อไปแล้วเพราะเมืองไทยเราก็มีที่อุทยานภูกระดึงนี่เอง ซึ่งจะอยู่ตรงทางทิศเหนือของอุทยาน

ตรงนี้นอกจากจะเป็นป่าอนุรักษ์แล้วที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมของลำธารหลายสาย และจะมีต้นเมเบิ้ลขึ้นอยู่ตรงริมธารมากมายและเมื่อถึงฤดูหนาวต้นเมเบิ้ลก็จะพากันพลัดใบเปลี่ยนเป็นสีแดงทำให้ที่ตรงนี้เต็มไปด้วยสีสันสดใสของสีแดงเต็มไปหมดเลยค่ะ ทั้งบนต้นไม้และทั้งที่มีร่วงหล่นลงมาบนพื้น มองดูพื้นดินคล้ายกับเป็นพรมสีแดงได้เลย และนี่เองคือเสน่ห์ของสีแดงของใบเมเบิ้ล

สีเหลืองอร่ามงามล้ำของทุ่งบัวตอง

         ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จะมีดอยชื่อดอยแม่อูคอ  จะมีการปลูกดอกบัวตองหลายร้อยไร่ จนที่นี่กลายเป็นทุ่งดอกบัวตองอวดโชว์สีสัน สีเหลืองอร่ามตาเพื่ออวดโฉมให้นักท่องเที่ยวที่สนใจความงามของธรรมชาติเดินทางมาสัมผัสกับความงามของดอกบัวตอง ณ ที่แห่งนี้  สำหรับที่ดอยแม่อูคอ ที่นี่เคยเป็นภูเขาหัวโลนมาก่อนหลังจากนั้นมิชนารีที่มาเผยแพร่ศาสนาที่ประเทศไทยได้มีการนำเมล็ดของดอกบัวตองมาโปรยทิ้งเอาไว้จนมีดอกบัวตองขึ้นเต็มพื้นที่ไปหมด จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

สีชมพูหวานบานสะพรั่งกับทะเลบัวจังหวัดอุดรธานี  สำหรับที่หนองหาร จังหวัดอุดรธานีแห่งนี้จะมีทุ่งดอกบัวโดยมีชื่อเรียกว่าทุ่งบัวแดง แต่ลองมองดูจะเห็นว่าดอกบัวนั้น เป็นสีชมพูไม่ใช่สีแดง ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดอุดรธานี ด้วยที่นี่จะมีพื้นน้ำที่เต็มไปด้วยดอกบัวเป็นจำนวนมาก ที่นี่ถือได้ว่าเป็นอันซีนไทยแลนด์อีกที่เลยทีเดียว

นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือเข้าไปชมความงามของดอกบัวอย่างใกล้ชิดจนได้กลิ่นอ่อนของดอกบัวและสามารถถ่ายภาพเก็บเอาไว้ในความทรงจำแต่ควรจะมีในช่วงเช้าตรู่จนถึงก่อนเที่ยง เพราะหลังจากนั้นแดดจะร้อนมากและดอกบัวก็จะหุบทำให้ไม่สวย

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุน  dewabet

เมื่อพูดถึง ประเทศสิงคโปร์ จะต้องยกคำว่า จิ๋วแต่ว่าเจ๋ง ให้เลยจ้ะ เนื่องจากว่าลักษณะตำแหน่งที่ตั้งเป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก พอๆกับเกาะจังหวัดภูเก็ตบ้านพวกเรานี่เอง แต่ว่าเจริญรุ่งเรืองสุดๆแถมยังมีสถานที่เที่ยวเป็น Landmark ที่โดดเด่น ส่วนขาช้อปก็ไปสนุกได้เหมือนกัน ทำให้ชาวไทยไปเที่ยวประเทศสิงคโปร์กันเยอะแยะ เนื่องจากว่าอยู่ใกล้บ้านพวกเรา สามารถท่องเที่ยวรอบประเทศสิงคโปร์ได้โดยใช้เวลาไม่นาน ใครต้องการท่องเที่ยวแบบไม่ต้องลางานนานๆแนะนำ ทัวร์ประเทศสิงคโปร์ เลยจ้า ราคาต่อทริปไม่แพงด้วยนะ รวมทั้งถ้าหากใครจองโปรแกรมทัวร์แบบมีฟรีเดย์ หรือท่องเที่ยวแล้วมีวันว่างๆยังไม่รู้จะไปไหนดี วันนี้เราจะพาไปดูว่า ท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ 24 ชั่วโมง ไปที่ไหนได้บ้าง…?

ข้อแรกพวกเรามาดูการเดินทางในประเทศสิงคโปร์กันจ้ะ ระบบขนส่งมวลชนในประเทศสิงคโปร์มี 3 ประเภทสำคัญๆเป็น sMRT, รถบัส และก็แท็กซี่ ส่วนการเดินทางที่สะดวกสุดๆเดินทางได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ก็แนะนำเป็นรถไฟ sMRT เลยจ้ะ

สิงคโปร์ ซิตี้ แกลเลอรี่ (Singapore City Gallery)

สถานที่แรกที่ต้องการเสนอแนะสำหรับในการ ท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ 24 ชั่วโมง ก็คือที่ ประเทศสิงคโปร์ ซิตี้ แกลเลอรี่ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงที่มาที่ไปของประเทศ ด้านในพิพิธภัณฑ์มีแบบจำลองเมืองทั้งเมืองของประเทศสิงคโปร์ทุกที่แล้วก็ยังมีโมเดลแสดงแผนผังเมืองจำลองของประเทศสิงคโปร์ในอีก 50 ปีข้างหน้าด้วย เจ๋งสุดๆไปเลย ประเทศนี้เค้ามองการณ์ไกลจริงๆจ้ะ เรื่องราวต่างๆของประเทศสิงคโปร์จะถูกพรีเซ็นท์ผ่านเทคโนโลยีนำสมัย แถมยังมีเกมส์สนุกๆอย่างเกมส์สร้างเมืองให้เล่นด้วย ทำให้รู้เรื่องเลยว่าประเทศสิงคโปร์เค้าสร้างประเทศกันอย่างไร ถึงได้อลังขนาดนี้

บอกได้เลยว่า ประเทศสิงคโปร์ ซิตี้ แกลเลอรี่ แห่งนี้เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะมากมาย ได้อีกทั้งความสนุกสนานร่าเริง เพลิดเพลิน รวมทั้งความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องประเทศสิงคโปร์กลับไปเพียบ ที่สำคัญคือเข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยนะ

Sands Sky Park @ Marina Bay Sands

ใครถูกใจชมทิวทัศน์ที่สูงจะต้องที่นี่เลยจ้ะ จุดสำหรับเพื่อชมวิวลอยฟ้า Sands Sky Park บน Marina Bay Sands ตึก 3 ตึกที่ส่วนบนเชื่อมกันด้วยพื้นที่ที่ออกแบบเป็นรูปเรือ ซึ่งส่วนของแซนด์ส สกาย ปาร์ค จะอยู่ที่ชั้น 56 ตรงส่วนหัวเรือที่ยื่นออกมาจากอีกทั้ง 3 อาคารนั่นเองจ้ะ ดูสูงไม่ใช่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะด้านบนสามารถดูทิวทัศน์ประเทศสิงคโปร์ได้รอบทิศทางแบบ Open air เลยจ้ะ บริเวณรอบๆจะล้อมด้วยระเบียงกระจกให้มองเห็นทิวทัศน์ข้างล่างเพื่อความหวาดเสียวบางส่วน แต่ว่าไม่ต้องกลัว เนื่องจากระเบียงเค้าทำไว้สูงแถมยังมีเส้นลวดกันอีกครั้งหนึ่ง ดูทิวทัศน์ได้แบบเพลินๆเลย จะขึ้นมาเวลาเย็นๆแล้วรอคอยให้ถึงค่ำก็จะได้ดูทิวทัศน์ทั้งสองบรรยากาศเลยจ้ะ

 

เที่ยวตลาดน้ำวัดสะพาน ตลาดน้ำที่อยู่ชานเมืองกรุงเทพ

          เป็นอีกหนึ่งตลาดน้ำในพื้นที่เขตตลิ่งชัน  โดยที่นี่จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 -14.00 น. โดยจะเปิดขายของเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น ซึ่งที่ตลาดน้ำแห่งนี้จะเป็นตลาดน้ำที่มีพื้นที่อยู่ในบริเวณของวัดสะพาน ซึ่งที่วัดแห่งนี้จะมีคลองที่หน้าวัด ชาวบ้านจึงได้นำสินค้าจากสวนของตนเองมาขายในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ตลาดแห่งนี้มีอายุมานานแล้วตามอายุของวัดสะพาน ดังนั้นเราจะเห็นสภาพของตลาดที่มีความเก่าและยังคงความสวยงามตามแบบฉบับของชาวบ้าน

ซึ่งที่ตลาดน้ำแห่งนี้จะมีความเป็นธรรมชาติ เวลาที่มาเดินที่นี่แล้วจะให้ความรู้สึกสบายใจ เพราะคนส่วนใหญ่เมื่อมาถึงที่ตลาดนี้แห่งนี้แล้วก็ต้องมีการเข้าไปกราบไหว้พระและทำบุญเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองด้วย 

ที่บริเวณคลองตรงหน้าวัด ฝั่งตรงข้ามจะเป็นบ้านเรือนของชาวบ้านทียังเป็นการปลูกสร้างมาตั้งแต่สมัยดั้งเดิมจึงทำให้คนที่มาที่นี่ได้สัมผัสกับธรรมชาติตามแบบสมัยเก่า อากาศที่ตลาดน้ำแห่งนี้จะเย็นสบายเพราะจะมีต้นไม้ต้นใหญ่เรียงรายตามคลองคอยให้ความร่มรื่น

และหากมาในช่วงฤดูหนาวที่เป็นช่วงที่ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์กำลังบาน ยามที่ลมพัดมาดอกสีชมพู ของดอกชมพูพันธ์ทิพย์จะร่วงโรยลงมาไม่ขาดสาย ทำให้เกิดภาพที่งดงามอย่างมาก และที่นี่เป็นตลาดน้ำที่ไม่ค่อยใหญ่มากนัก ดังนั้นผู้คนที่มาเดินเที่ยวตลาดน้ำที่นี่จะไม่ค่อยพลุกพล่าน ทำให้เราเดินดูและซื้อของได้อย่างสบายไม่รู้สึกอึดอัด

และแม่ค้าของที่นี่จะขายของบนเรือของตัวเอง โดยจะมีการพายเรือมาจอดเทียบท่าตรงหน้าวัดแล้วนักท่องเที่ยวก็สามารถเลาะเดินตามคลองเพื่อมองหาซื้อสินค้าทีต้องการได้ และหากใครที่อยากจะไปเที่ยวเยี่ยมชมตลาดน้ำอื่นอื่นที่อยู่ใกล้กับตลาดน้ำวัดสะพานนี้แล้ว ที่นี่ก็จะมีเรือคอยบริการรับส่ง และเมื่อซื้อของกันจุใจแล้วก็อย่าลืมเดินเข้าไปภายในบริเวณวัด

เพราะทำบุญทำทาน และไหว้พระพุทธรูปที่ชาวบ้านที่นี่เคารพนับถือ วิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้านที่นี่ยังเป็นแบบดั้งเดิมซึ่งการเดินทางบางครั้งยังใช้วิธีการพายเรือ อย่างเช่นเวลาที่พระจะต้องออกไปบิณฑบาต หรือทำกิจนิมนต์ต่างต่าง ชาวบ้านมักจะพายเรือมารับพระไปทำ แทนที่จะขับรถมารับ 

และหากใครที่อยากมาลองเที่ยวชมวิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้านแบบสมัยโบราณ รวมถึงทานอาหารไทยโบราณแล้วละก็ที่นี่จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักท่องเทียวควรจะลองมาเที่ยวดุ

ฝรั่งเศส หนึ่งในประเทศโซนยุโรปที่ใครๆต่างก็เฝ้าฝันที่จะไปท่องเที่ยวประเทศสุดแสนโรแมนติกแห่งนี้ ฝรั่งเศสนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมที่งดงาม แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ถูกใจเหล่านักช้อปปิ้งตัวยง ผลงานศิลปะชื่อดังที่มีอายุเก่าแก่กว่าหลายร้อยปี อาหารรสชาติชั้นเลิศ และอื่นๆอีกมากมาย จึงทำให้ใครๆก็อยากไปฝรั่งเศส และลิสให้เป็นประเทศที่ฝันไว้ว่าต้องไปให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้เมื่อมาที่ประเทศฝรั่งเศส คือ 

DISNEYLAND PARIS

สวนสนุกที่จะทำให้คุณมีวันหยุดสุดอัศจรรย์ ภายในแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ Disney Studio และ Disneyland Park ที่จะช่วยเติมเต็มการเดินทางอันแสนวิเศษของคุณแบบไม่มีวันรู้จบ โดยเพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นต่างๆ พักกินอาหารแสนอร่อย เลือกซื้อของที่ระลึกที่ถูกใจ หรือจะพักผ่อนอย่างเต็มที่รีสอร์ทของสวนสนุก และพลาดไม่ได้ที่จะตามหาเหล่าตัวการ์ตูนที่คุณชื่นชอบภายในสวนสนุกทั้ง Mickey Mouse, Minnie Mouse, Donald Duck, Goofy, Pluto, Chip & Dale รวมไปถึงเหล่าเจ้าหญิงเจ้าชายและตัวการ์ตูนอื่นๆอีกมากมายให้คุณได้ถ่ายรูปเก็บความประทับใจไว้

 

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงไปถึงระดับโลก

แต่ก่อนที่คุณจะได้เข้าไปพิพิธภัณฑ์คุณจะได้เจอกับทางเข้าที่ถือเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คนั้นก็คือพีระมิดแก้วหลังใหญ่อันสวยงามตั้งอยู่ ส่วนภายในพิพิธภัณฑ์นั้นจัดแสดงผลงานทางศิลปะรวมแล้วกว่า 35,000 ชิ้น และแบ่งเป็นโซนศิลปะประเภทต่างๆ และที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่ลูฟวร์คือการชมภาพโมนาลิซ่า ภาพชื่อดังระดับก้องโลก และการดูรูปปั้นวีนัสอันโด่งดัง

 

หอไอเฟล

เป็นดั่งอนุสาวรีย์ประจำกรุงปารีสและประเทศฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ หอไอเฟลได้ถูกก่อสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1889 โดยโครงสร้างคือเหล็กทั้งหมดและมีความสูงกว่า 324 เมตร จริงๆแล้วคุณนั้นสามารถขึ้นไปบนจุดชมวิวเพื่อชมวิวอันสวยงามรอบๆกรุงปารีสจากบนหอไอเฟลได้อีกด้วย แต่จำไว้เรื่องหนึ่งนะคะยิ่งขึ้นสูงเท่าไหร่ค่าตั๋วขึ้นชมก็ยิ่งแพงขึ้นค่ะ

 

พระราชวังแวร์ซาย

เป็นพระราชวังกึ่งพิพิธภัณฑ์ที่สร้างมาอย่างยิ่งใหญ่และอลังการเป็นอย่างมาก และถึงแม้คุณจะดูจากภายนอกคุณก็จะเห็นได้ถึงความวิจิตรสวยงามของสถาปัตยกรรมของพระราชวัง ภายในประกอบด้วยห้องมากมายกว่า 700 ห้อง งานศิลปะอันทรงคุณค่า และเฟอร์นิเจอร์จากสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ยังเก็บรวบรวมไว้และนำมาจัดแสดงภายในพระราชวังแห่งนี้

 

ถนนฌ็องเซลิเซ่อ

ถนนสายโรแมนติกและสายช้อปปิ้งที่ทอดยาวไปจนถึงประตูชัยนโปเลียน โดยทั้งสองฝั่งฝากถนนนั้นเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายตั้งแต่ร้านขายของที่ระลึกทั่วไป ร้านเสื้อผ้า ร้านรองเท้า จนไปถึงร้านขายของแบรนด์ Hi-end เช่น H&M  SARA Mango Adidas Nike Louis Vuitton Hugo Boss Gucci และฯลฯ รวมไปถึงร้านอาหารต่างๆที่คอยเปิดให้บริการเมื่อคุณหิวจากการช้อปปิ้งมาจนเหนื่อยค่ะ