หมวดหมู่: สุขภาพ

สำหรับวันนี้เราจะมารีวิวกระเป๋าสตางค์ให้กับขาช้อปปิ้งจะเป็นกระเป๋าที่มีไอเทม SLG ที่มีความฮอตและฮิตมากที่สุดตลอดกาลรวมไปจนถึงทุกวันนี้ของ Chanel นั่นก็คือ Chanel Tei-fold Wallet นั่นเอง 

อยากได้กระเป๋าสตางค์ ซึ่งเป็น Itemที่ดูเหมือนCLASSICที่มีความคิดตลอดกาลรวมไปจนถึงแม้กระทั่งในตอนนี้สายช้อปปิ้งหลายๆคนก็ยังคงตามหากระเป๋าสตางค์ใบนี้อยู่โดย Chanel เขาจะมีดอกคามิเลียแล้วก็ริบบิ้นสีทองที่เป็นของเทศกาลปีใหม่แล้วก็คริสต์มาสกับดอกคามิเลียสีดำ

ซึ่งใครที่ได้ซื้อไปมันจะเป็นของสะสมเราสามารถนำเอาริบบิ้นที่แถมมากับกระเป๋าสามารถเอาไปรัดผมได้และเราจะมารีวิวกระเป๋าที่ออกมาจาก Shop ก็อย่างที่ขาช้อปทราบกันดีอยู่แล้วว่าก็จะมีตัวถุงกระดาษริบบิ้นดำแล้วก็ดอกคามิเลีย 

เพราะฉะนั้นแล้วตรงนี้จะเป็นช่วงของเทศกาลสิ้นปีตัวกล่องก็จะเป็นกล่องสีดำของ Chanel แล้วจะมีในส่วนของคู่มือที่ติดมาให้มีถุงผ้าและซองใบเสร็จและจะมีกระเป๋านอกจากนี้ตัวของกระเป๋าจะเป็นหนังรูปวัวปั๊มลายคาเวียร์บอกเลยว่าบรรดาขาช็อปเมื่อได้เห็นกระเป๋าชาแนลใบนี้บอกได้เลยว่าสวยมากๆแถมอะไหล่ยังเป็นสีทองอีกด้วย 

เมื่อหันดูด้านหลังของกระเป๋าจะมีซิปสามารถเก็บบัตรและสิ่งของเล็กๆน้อยๆได้หากได้ลองเปิดกระเป๋าแล้วจะเป็น 3 พับ ภายในบอกได้คำเดียวว่าสวยมากหนังของกระเป๋าดีมาก ก็คือจะมีช่องใส่บัตรจะมีทั้งหมด 6 ช่องแล้วก็จะมีช่องด้านหลังที่เอาไว้พกใบเสร็จหรือจะเป็นบัตรอะไรแบบนี้ก็สามารถใส่เข้าไปได้และก็จะมาพร้อมการ์ดHolo ก็จะเป็น holo 31 แล้วจะมีช่องใส่แบงค์สามารถใส่ได้ถึงแบงค์พันโดยที่ไม่ต้องพับก็คือดีมากตรงนี้

นอกจากนี้เมื่อเวลาเราไปกระเป๋าก็จะมีกระดุมแป๊บโดย Item นี้ เป็น Item ที่ควรค่าแก่การเก็บเอาไว้ครอบครองของสายช็อปปิ้งทั้งหลายหรือจะรวมไปถึงในการใช้งานคือหนังคาเวียร์มันจะเป็นหนังที่มันจะเป็นลายปั๊มแม็กคาเวียร์มันจะมีความทนทานและมีความแข็งแรง

หากมีการโดนขีดข่วนหรือเล็บเราไปข่วนด้านหนังของกระเป๋าก็จะไม่เป็นรอยเพราะฉะนั้นแล้วมันจะคงทนในการที่สายช้อปปิ้งทั้งหลายที่อยากจะมีกระเป๋าสตางค์ดีๆสัก 1 ใบ ของ Chanel 

เราคิดว่ากระเป๋า chanel รุ่นนี้ เราแนะนำได้เลยว่าตอบโจทย์กับสายช้อปปิ้งอย่างแน่นอนทั้งนี้มันยังควรค่าตอบโจทย์ในเรื่องของการเป็น luxury Investment ด้วยในการลงทุน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    alpha88

การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนนั้นให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะการออกกำลังกาย เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่สุขภาพร่างกายของเราได้ รวมไปถึงช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดี และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ร่างกายได้อีกด้วย ซึ่งต้อบอกก่อนว่าการออกกำลังกายในสมัยปัจจุบันนี้มีหลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งในแต่ละรูปแบบนั้นก็จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นไม่ว่าเราจะเลือกออกกำลังกายแบบไหนก็ตามก็สามารถช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้

ออกกำลังแบบไหนดีต่อร่างกายที่สุด  ไม่ว่าจะเป็น การทำงานบ้าน การเดิน หรือแม้แต่การขยับร่างกายก็เรียกได้ว่าเป็นการออกกำลังกายได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กำลังจะหันมาออกกำลังกาย แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกออกกำลังกายแบบไหน หรือประเภทไหนดีเพื่อช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีและ เหมาะสมต่อร่างกายมากที่สุด วันนี้เราก็จะมาแนะนำการออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพ รับรองได้เลยว่าหากหากทำเป็นประจำจะยิ่งดีต่อสุขภาพ จะมีการออกกำลังกายแบบไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย  

การออกกำลังกายแบบ HIIT หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าการออกกำลังกายในรูปแบบ HIIT นั้นเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบไหน ซึ่งการออกกำลังกายด้วยวิธีนี้จะเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบของความเข้มข้น จนส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจนั้นสูงขึ้นในระดับ 80-90% โดยการออกกำลังกายในรูปแบบนี้ไม่ค่อยได้นับความนิยม แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีการออกกำลังกายในรูปแบบนี้นั้นดีต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก

การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง การออกกำลังกายประเภทนี้ได้รับความนิยมมากพอสมควร เพราะคนส่วนใหญ่มักที่จะเลือกการออกกำลังกายประเภทนี้ เนื่องจากว่าเป็นการออกกำลังกายที่ต่อใช้แรงเยอะ หรือใช้น้ำหนักตัวเพื่อออกแรงดัน เพื่อช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อที่ดีให้แก่ร่างกาย ทั้งยังช่วยในการเสริมสร้างกระดูกที่แข็งแรงให้แก่ร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้น ขอบอกเลยว่าวิธีการออกกำลังกายประเภทนี้ดีต่อร่างกายอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงได้ ยังช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 

การออกกำลังกายแบบพิลาทิส การออกกำลังกายในรูปแบบนี้ จะเป็นการออกกำลังกายโดยเน้นไปที่กล้ามเนื้อ และยังเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบพื้นที่จำกัด ขอบอกเลยว่าวิธีการออกกำลังกายในรูปแบบนี้ดีต่อร่างกายของเราเป็นอย่างเพราะสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุนให้แก่ร่างกาย กล้ามเนื้อ และข้อต่อร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  aesexy

การทำให้หน้าพังเร็ว สำหรับสาวๆคนไหนที่ชื่นชอบในวิธีการนอนเช่นนี้คุณจะต้องระมัดระวังแบบสุดๆนะคะ เพราะว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่คุณเองก็อาจจะไม่รู้ตัวเช่นกันนะว่ามันจะส่งผลต่อผิวหน้าของเราเอง ซึ่งอาจจะทำให้หน้าของเรานั้นเกิดการโทรมได้ หรือการเกิดสิวได้ง่ายเช่นกัน โดยบางคนก็ทำให้หน้าหมองคล้ำ และทำให้ผิวของเราแก่เร็วมีริ้วรอยเยอะขึ้นได้

ในวันนี้เราจะมาแนะนำให้ทราบกันนะว่ามีอะไรบ้างที่สาวๆไม่ควรที่จะทำเลย โดยถ้าไม่ทำสิ่งเหล่านี้รับรองได้ว่าหน้าของสาวๆจะไม่พังเร็วอย่างแน่นอน

การนอนดึกเกินไป 

สำหรับสาวๆคนไหนที่นอนดึกจนเกินไปหรือเกิน5ทุ่มนั้น จะส่งผลให้สิ่งเหล่านี้ไปขัดขวางการทำงานของการฟื้นฟูผิวของเรา นั่นก็คือสำหรับในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ของเราและรวมไปถึงในการฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ของเราอีกด้วยเช่นกัน เพราะในช่วงที่เรานั้นทำการหลับสนิทโดยกำหนดเวลาโดยประมาณ ห้าทุ่มนั้นจนไปถึงเวลาประมาณตีหนึ่ง

จะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนของทุกคนทำงานและมันจะทำงานอย่างเต็มที่ในเวลานี้ด้วย และเทียบตลอดทั้งวันแล้วถือว่าเวลานี้เป็นการทำงานที่สูงที่สุดเลยแหละ แต่ว่าเราจะต้องทำการหลับให้สนิทนะ ซึ่งจะต้องเป็นช่วงเวลานี้อีกด้วย เนื่องจากว่าฮอร์โมนนั้นมันไม่เพียงช่วยในเรื่องของการเติบโตเพียงอย่างเดียว แต่มันยังช่วยให้ผิวพรรณของเราดีขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นมันจึงได้เป็นการเรียกว่าเป็นฮอร์โมนหน้าเด็กหรือหน้าใสนั่นเองคะ เพราะว่ามันจะช่วยเข้าไปซ่อมในส่วนมี่มรปัญหาเกี่ยวกับผิวของสาวๆนะคะ โดยไม่ว่าจะเป็นอาการแดงหรือเป็นสิวก็ตาม หรืออาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับผิวที่หมองคล้ำ หรือในบางคนที่มีผิวผัดเปรี่ยนหมุนเวียนผิวใหม่ด้วยนะคะ

โดยเซลล์ผิวของเราจะมีอายุและทำการเสื่อมลงในทุกๆวัน ซึ่งทำให้เซลล์ผิวใหม่ของเราจะต้องทำการผลิตขึ้นมาใหม่อีกทุกๆวัน ก็คือในช่วงเวลาเหล่านี้เท่านั้นเองตะ แต่ว่าสไหรับใครที่ไม่ได้ทำการนอนในช่วงเวลาที่กล่าวมานี้นะคะ สังเกตุได้เลยว่าผิวหน้าของเราจะดูโทรม และรูขุมขนจะกว้างกว่าปกติ และจะทำให้หน้ามันมากขึ้นอีกด้วย

เพราะฉะนั้นสาวๆที่ทำการนอนดึกเกินห้าทุ่มก็ควรที่จะทำการปับเวลานอนเสียใหม่นะคะและเพื่อให้สาวๆหลับได้สนิทในช่วงห้าทุ่มนี้ได้ก็ควรที่จะเข้านอนโดยประมาณตั้งแต่สี่ทุ่มกำลังดีนะคะ เพื่อหน้าที่อ่อนเยาว์ของคุณเอง  อย่าลืมทำนะ ถ้าใครที่ยังไม่เคยทำเช่นนี้ก็ลองหันมาทำดูจะได้มีหน้าที่เด็กขึ้น

 

สนับสนุนโดย.    huaydee

น้ำประเภทไหนบ้างที่จะช่วยบำรุงไต สำหรับ น้ำผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำแอปเปิ้ลน้ำฝรั่งอะไรทุกๆชนิดเลยน้ำผลไม้ส่วนใหญ่มันจะมีโพแทสเซียมที่สูงและก็ยังมีน้ำตาลสูงด้วย

เพราะว่าการที่จะคั้นน้ำผลไม้ออกมาได้หนึ่งแก้วเราจำเป้นที่จะต้องใช้ผลไม้หลายผลมากเลยยกตัวอย่างเช่นน้ำส้มหนึ่งแก้วกว่าเราจะคั้นออกมาได้เราจำเป็นที่จะต้องใช้ส้มประมาณ4-5ผลเลยทีเดียวดังนั้นก็จะมีส่วนประกอบของโพแทสเซียมแล้วก็น้ำตาลที่สูง

ดังนั้นคนที่เป็นโรคไตในระยะแรกก็ได้ห้ามอะไรสามารถดื่มได้ระยะหนึ่งระยะสองแต่ถ้าเป็นในระยะ3b,4,5,ขึ้นไปแนะนำว่าคุณควรจะต้องหลีกเลี่ยงแล้วและรับประทานเป็นผลไม้สดจะดีกว่านอกจากที่โพแทสเซียมจะไม่สูงแล้วก็จะมีพวกกากใยอาหารก็จะดีต่อร่างกายมากกว่าด้วยแล้วก็สำหรับคนที่เป็นเบาหวานก็แนะนำว่าอาจจะต้องหลีกลี่ยงน้ำผลไม้เช่นเดียวกันน้ำตาลสูงมากๆทานเป็นผลไม้สดก็จะดีกว่า

สำหรับ น้ำเกลือแร่ น้ำแร่ โดยน้ำพวกนี้ก็จะมีส่วนประกอบของโซเดียมแล้วก็โพแทสเซียมที่สูงดังนั้นไม่แนะนำในผู้ป่วยระยะท้ายๆตั้งแต่3b,4,5ขึ้นไปอันนี้ไม่แนะนำเพราะว่าไตมีหน้าที่ในการดูดโซเดียมแล้วก็ขับโพแทสเซียมออก

การที่ดื่มน้ำเหล่านี้เข้าไปเยอะๆก็จะส่งผลทำให้ไตทำงานหนักขึ้นแล้วบางครั้งก็ขับโพแทสเซียมออกได้น้อยก็จะส่งผลทำให้โพแทสเซียมในเลือดสูงขึ้นๆอาจจะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ดังนั้นคนที่เป็นโรคไตแนะนำว่าให้ระวังการดื่มน้ำแร่แล้วก็ดื่มน้ำเกลือแร่

สำหรับ น้ำหวาน ซึ่งน้ำหวานทุกชนิดเลยไม่ว่าจะเป็นน้ำเฮบลูบอยน้ำเชื่อมน้ำอะไรต่างๆมากมายที่หวานสำหรับคนที่เป็นโรคไตสามารถดื่มได้ถามว่ามันช่วยบำรุงไตไหมมันไม่ได้ช่วยบำรุงไตอะไรแต่สำหรับคนที่เป็นโรคไตร่วมกับเป็นโรคเบาหวานแบบนี้ต้องระวังแล้ว

การที่ดื่มน้ำหวานในปริมาณที่มากๆจะส่งผลทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณสูงขึ้นๆและอาจจะทำให้ไตวายเร็วขึ้นได้ดังนั้นแนะนว่าสำหรับใครที่เป็นโรคไตร่วมกับเป็นโรคเบาหวานน้ำอาจจะต้องจำกัดน้ำตาลหน่อยรับประทานมากเกินไปมันอาจจะไม่ดี

สำหรับ น้ำสมุนไพร ยกตัวอย่างเช่น น้ำขิง น้ำกระเจี๊ยบ น้ำใบเตยต่างๆคนที่เป็นโรคไตสามารถดื่มได้ไม่เป็นปัญหาแต่ต้องระวังนิดนึงของน้ำตาลบางคนเวลาที่ดื่มของเหล่านี้แล้วจะเติมน้ำตาลเยอะแนะนำว่าในหนึ่งแก้วไม่ควรเติมน้ำตาลเกินหนึ่งถึง2ช้อนชา

เพราะว่าเกินนี้มันก็จะไม่ดีต่อสุขภาพของร่างกายเช่นกันดังนั้นน้ำพวกนี้คนที่เป็นโรคไตสามารถดื่มได้แต่ให้ระมัดระวังเรื่องของน้ำตาลเท่านั้นเองหลายคนก็คงงจะทราบกันดีแล้วว่าน้ำตาลนั้นเป็นตัวที่ทำให้เกิดโรคต่างๆให้กับร่างกายของตัวเองได้อย่างไรก็ระมัดระวังกันด้วย

 

สนับสนุนโดย.    หวยฮานอย บาทละ 1000

หลายคนก็ยังสงสัยอยู่ว่าการดื่มน้ำนั้นมันมีประโยชน์กับร่างกายของเราอย่างไรและมันมีความเกี่ยวข้องกับร่างกายอย่างไรบ้างน้ำถือได้ว่าเป็นตัวหลักในการดำรงชีวิตของเราหากขาดน้ำร่างกายก็จะสูญเสียน้ำทำให้อ่อนเพลียกระหายน้ำดังนั้นแล้วเราจะมาบอกวิธีการดื่มน้ำให้หายสงสัยกัน

สำหรับการดื่มน้ำ หลังออกกำลังกาย อันนี้ถือว่าตรงไปตรงมาแต่จริงๆแล้วการออกกำลังกายถ้าคุณออกกำลังกายเป็นระยะเวลานานเช่นการวิ่งครึ่งชั่วโมงหรือ45นาทีหือ1ชั่วโมงเราขอนะนำให้จิบน้ำตลอดการออกกำลังกายเราไม่จำเป็นที่จะต้องหิวก่อนแล้วค่อยดื่มน้ำเพราะแปลว่าขาดน้ำแล้ว

ซึ่งอาจจะทำให้เราน่ามือเป็นลมตอนที่เราออกกำลังกายก็ได้หรือจะทำให้สมรรถภาพในตอนที่เราออกกำลังกายแย่ลงเพราะฉะนั้นการดื่มน้ำแนะนำให้ดื่มทั้งขณะออกกำลังกายแล้วก็หลังออกกำลังกายก็จะช่วยให้ท่านออกกำลังกายได้นานขึ้นแล้วก็หลังออกกำลังกายก็สดชื่นไม่น่ามืดไม่วิงเวียนไม่เป็นลม

บางคนวิ่งไปสักพักเป็นลมล้มหัวแตกอันตรายก็คือมีอาการวูบแบบนี้โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อนๆแล้วออกกำลังกายแนะนำว่าจะต้องจิบน้ำตลอดเวลาและนี่คือช่วงเวลาที่แนะนำให้ดื่มน้ำก็ช่วงที่ออกกำลังกายและหลังออกกำลังกาย

คราวนี้มาต่อช่วงเวลาของการดื่มน้ำกันบ้างที่แนะนำให้ดื่มน้ำก็คือ ครึ่งชั่วโมงก่อนที่คุณจะรับประทานอาหาร ถามว่าทำไมการดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหารครึ่งชั่วโมงมันเป็นการเหมือนกับว่าเข้าไปกระตุ้นเตือนร่างกายบอกว่าเดี๋ยวเราจะกินอาหารแล้วนะเตรียมระบบเพื่อการย่อยอาหารหน่อย

ร่างกายก็จะเริ่มตื่นตัวอยากที่จะย่อยอาหารพอเราทานอาหารหลงัจากดื่มน้ำไปสักครึ่งชั่วโมงแล้วระบบการย่อยอาหารของเราก็จะดีเยี่ยมและยังไม่พอสำหรับคนที่อยากจะลดน้ำหนักการดื่มน้ำสักครึ่งชั่วโมงก่อนทานอาหารจะช่วยทำให้คุณกินปริมาณอาหารลดลง

ซึ่งมันก็ส่งผลโดยตรงต่อน้ำหนักทำให้คุณควบคุมน้ำหนักได้ดีเพราะว่าสมองของเราเวลาที่ทานอาหารเข้าไป10-20นาทีแรกไม่รู้เรื่องเลยทั้งๆที่คุณอาจจะทานสัก2-3จานเพราะว่าคุณเป็นคนทานรู้แต่ว่าสมองยังไม่รู้เลยว่าอิ่มทั้งๆที่จริงๆแล้วได้ไปเยอะแล้วแต่ถ้าคุณดื่มน้ำมาก่อนมันเป็นการกระตุ้นส่งไปที่สมองแล้วบอกว่าเราเริ่มทานแล้วนะ

พอเราเริ่มทานข้าวเข้าไปจริงๆแล้วพอทานไปสัก5-10นาทีถ้าเราเริ่มแน่นหรืออิ่มท้องกระเพาะขยายสมองจะรับรู้เร็วกว่าว่าเราน่าจะอิ่มน่าจะเพียงพอแล้วก็จะทำให้เราทานอาหารไม่มากจนเกินไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  aesexy

      การกินวิตามินซีเวลาไหน ascorbic Acid หรือวิตามินซี  เป็นสารอาหารที่มีความปลอดภัยสูงโดยปกติ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าวิตามินซีที่เราคิดว่ามันมีประโยชน์ต่อร่างกายนั้นหากเราทานมากจนเกินไปมันก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกันจึงได้ว่าผลเสียนั้นจะไม่ส่งผลรุนแรงต่อการเสียชีวิตของเราก็ตามเรามาดูกันว่าถ้าหากเราจะกินวิตามินซีแล้วปลอดภัยไม่เกิดอันตรายเราควรกินในปริมาณที่เท่าไหร่และควรกินเวลาไหนจะดีที่สุด 

         คุณรู้หรือไม่ว่าคนเรานั้นโดยปกติแล้วไม่ได้ต้องการวิตามินซีมากสักเท่าไหร่นักโดยปกติแล้วมีเด็กนั้นต้องการวิตามินซีเพียงแค่ประมาณ 20 -50 มิลลิกรัม  ต่อวันเพียงเท่านั้นซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงอายุของเด็กด้วยส่วนตัวผู้ใหญ่นั้นจะต้องการวิตามินซีต่อวันเพียงแค่ประมาณ 50-  100 มิลลิกรัมเพียงเท่านั้น  

  ซึ่งดูแล้วปริมาณที่ร่างกายได้เยอะมากเลยโดยปกติแล้วเราสามารถรับวิตามินซีได้จากสารอาหารที่เรากินเข้าไปไม่ว่าจะเป็นจากผักหรือแม้แต่ผลไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงยกตัวอย่างเช่นฝรั่งหรือมะขามป้อมรวมถึงมะขามเทศ รวมถึงผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เป็นต้น   

        คุณจะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้มีการนำวิตามินซีมาแปรรูปเป็นเม็ดยา เพื่อให้คนกินง่ายโดยตามท้องตลาดนั้นจะเห็นได้ว่าวิตามินซีนั้นมีขายตั้งแต่ 1 เม็ด 500 mg หรือ 1000 mg ก็มีแต่จริงๆแล้วในวันหนึ่งนั้นร่างกายของคนเราไม่ควรที่จะกินวิตามินซีมากเกินกว่า 3000 มิลลิกรัม  พร้อมเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกินวิตามินซีต่อวันนั้นมากเกินกว่า 300 mg

มันจะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณทันทีเพราะวิตามินซีมันจะตกค้างอยู่ในร่างกายของคุณและผลเสียที่ตามมานั่นก็คือ จะมีอาการปวดท้องคลื่นไส้และอาเจียนเยอะเลยทีเดียว  นอกจากนี้วิตามินซีที่จะถูกขับออกจากร่างกายนั้นจะมีการตกผลึกระหว่างที่มีการไหลออกมาตามท่อปัสสาวะซึ่งจะส่งผลทำให้คุณเป็นนิ่วได้และจะส่งผลเสียอันตรายมากเลยทีเดียวถ้าหากว่าคุณเป็นโรคนิ่ว

         ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการทานวิตามินซีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงอยากจะให้หน้าตาสดใสแล้วเราก็ 1 วันนั้นคุณควรจะกินวิตามินซีไม่เกินวันละ 1000 – 2000 มิลลิกรัมเพียงเท่านั้น  ส่วนเวลาที่จะทานนั้นคุณสามารถเลือกทานได้เลยว่าจะทานตอนเช้าหรือว่าตอนเย็น ก็ไม่แตกต่างกัน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือคุณควรจะทานระหว่างมื้ออาหาร หรือหลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กินวิตามินซีทันทีเพราะมันจะช่วยลดอาการปวดท้องให้คุณได้นั่นเอง               

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  เว็บหวย จ่าย บาทละ 97

ปัญหาจุดซ้อนเร้นเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกับผู้หญิงอย่างเรา ๆ เพราะการที่น้องสาวของเรามีกลิ่งที่ไม่พึ่งประสงค์อาจเป็นปัญหากวนใจที่อาจส่งผลให้เราเสียความมั่นใจไปในตัวเองไปได้เป็นอย่างมาก ตกขาวมีกลิ่น ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงโดยเกิดจากการที่ร่างกายมีการปรับเปลี่ยนปริมาณของแบคทีเรีย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าหากว่าการเป็นตกขาวแบบปกติก็ไม่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเรา แต่เมื่อไหร่ที่การเป็นตกขาวแบบไม่ปกติ เช่น ตกขาวมีสิที่เปลี่ยนไปจากเดิน หรือตกขาวมีกลิ่มเหม็น ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเรากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรบ้าง

ตกขาวมีกลิ่น ดังนั้น การที่น้องสาวของเรามีกลิ่งเหม็นที่ไม่พึ่งประสงค์ก็อาจทำให้เราเกิดความเขินขาย จึงต้องหาวิธีในการรักษาอาการเหล่านี้ให้หายไป บางคนเลือกที่จะกินยาเพื่อลดการเกิดตกขาว หรือบางคนอาจใช้วิธีบ้านที่มีความเชื่อก็ได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ โดยการเลือกรับประทานอาหาร หรือการหันมาดูแลตนเองมากขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็ได้มีวิธีการดีดีที่จะมาแชร์ให้กับผู้ที่พบเจอกับปัญหาการมีตกขาว หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น สามารถทำได้ง่าย ๆ เลยคือ 

การรับประทานนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ตเป็นประจำ

แน่นอว่า โยเกิร์ตกับนมเปรี้ยวสามารถแก้ปัญหาการเป็นตกขาว หรือปัญหาเกี่ยวกับจุดซ้อนเร้นของเราได้เป็นอย่างดี เพราะในนมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ตนั้นจะมีปริมาณของแบคทีเรียผสมอยู่ และหากรว่าร่างกายของเราเกิดการมีกลิ่น หรือเกิดจากการที่แบคทีเรียไม่สมดุล หากเรารับประทานทั้งสองอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน จะสามารถเข้าไปเพิ่มความสมดุลของแบคทีเรียในร่างกายได้ นอกจากนี้แล้วยังมี แลคโตบาซิลลัส ที่ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อราที่อยู่ในช่องคลอดขอเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เลี่ยงอาหารกรดด่างสูง

การรับประทานอาหารประเภทนี้เป็นประจำ อาจส่งผลให้การสมดุลในร่างกายของเรานั้นเปลี่ยนไป เพราะอาหารประเภทที่มีกรดด่างสูง อาทิเช่น แอลกอฮอล์ เนื้อแดง หรือหน่อไม้ฝรั่ง หากเรารับประทานเป็นประจำอาจส่งผลให้ร่างกายของเราเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคได้ง่าย รวมไปถึงปัญหาของจุดซ้อนเร้นของเราด้วย ดังนั้น หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงเพื่อสุขภาพร่างกาย และการเกิดเชื้อราบนน้องสาวของเรา

ไม่สวมใส่เสื้อผ้ารัด

การที่เราสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแนบกับตัวเกินไปอาจส่งผลให้เวลาเรามีเหงื่ออกแล้วเกิดการไม่ระบาย แบคทีเรียก็จะเกิดการสะสม และอาจส่งกลิ่งที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นนั่นเอง โดยเฉพาะกับน้องสาวของเรา เพราะบริเวณนี้จะมีความชื้นเป็นปกติอยู่แล้ว และเมื่อเราสวมใส่กางเกงที่รัดแน่ ก็อาจส่งผลให้น้องสาวของเราหายใจไม่ออก หรือไม่อากาศไม่ถ่าย จนส่งกลิ่นออกมาก็ได้ ดังนั้น การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัว หรือ มีอากาศถ่ายเทได้ดี อาจเป็นวิธีเลี่ยงการสะสมของแบคทีเรีย และลดการเกิดกลิ่งที่ไม่พึงประสงค์ได้ 

 

สนับสนุนโดย.  หวยดี

ในช่วงหน้าร้อนนี้ แน่นอนว่าสาว ๆ หลายคนที่ผมยาวกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ในช่วงหน้าร้อน นั่นก็คือ การดูแลรักษาผมให้คงความสวย และหอมอยู่เสมอ แต่ทว่าการที่เราจะดูแลผมให้คงเสมอสภาพเดิมไปตลอดทั้งวันได้นั้นก็นับเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเนื่องสภาพอาการบ้านเรานั้นไม่ค่อยจะอำนวยกันสักเท่าไหร่

อาจส่งผลให้ผมของเราเกิดการอับชื้น หรือในบางครั้งก็อาจส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาได้ จึงทำให้สาว ๆ หลายคนหันมาดูแลผมของตนเอง สระผมมากขึ้น จากที่เคยสระผม 2-3 วันครั้ง ก็ต้องมาสระเป็นวันละครั้ง เพื่อป้องกันผมอับชื้นให้คงสภาพกลิ่นหอมกันอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม อย่างพึ่งเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เรามีวิธีดูแลทำความสะอาดเส้นผมของคุณ ให้คงความสวย มีน้ำหนัก และมีกลิ่นที่หอมอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าแดด หรืออากาศบ้านเราจะแรงแค่ไหนก็ไม่ต้องหวั่น จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย

  • สระผมบ่อยขึ้น เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงเคยเป็นกัน ที่ทิ้งผมไว้ประมาณ 2-3 วันโดยไม่สระ ซึ่งอาจเป็นความเคยชินของใครหลาย ๆ คน แต่เชื่อเถอะว่าทำได้แค่ช่วงหน้าหนาวเท่านั้นแหละ แต่หากอยู่ในช่วงหน้าร้อนก็คงไม่มีใครทำได้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากอากาศที่ร้อนแล้วนั้น บวกกับคนที่ผมยาว เราจำเป็นที่จะต้องสระผมให้บ่อยขึ้น หรือทุกวันจะยิ่งดี เพราะจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่มากับเหงื่อเราออกไป เพื่อสุขภาพผมที่ดี ดังนั้น หากใครที่อยากมีผมที่สวย เงางาม มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวันในช่วงหน้าร้อน ควรหมั่นสระผมทุกวัน จะช่วยให้ผมของเรามีชีวิตชีวามากขึ้น
  • การมาร์กด้วยน้ำผึ้งไข่ การมาร์กผมเป็นประจำ นอกจากจะช่วยฟื้นฟูเส้นผมของเราแล้ว ยังช่วยปกป้องผมของเราจากปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดผมเสียได้ ซึ่งการที่เราใช้น้ำผึ้งผสมกับไข่ แบ่งเป็นสัดส่วนให้เท่า ๆ กัน นำมาหมักลงบนเส้นผมของเราทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงทำสัปดาห์ละครั้ง สองครั้ง ก็สามารถมีผมที่นุ่มสละสลวย ดูเงาตลอดทั้งวันในช่วงหน้าร้อนได้อีกด้วย
  • การนวดน้ำมัน การใช้นำมันนวดผม หรือน้ำมันมะพร้าวนวดผม ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของการฟื้นบำรุงเส้นผมได้เพียงอย่างเดียว ยังส่งผลให้ผมของเรามีสุขภาพที่ดีมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการที่เรานำน้ำมันมานวดตรงบริเวณเส้นผมเป็นประจำ จะช่วยฟื้นฟูผมของเราให้มีความแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้น ในช่วงหน้าร้อนนี้ที่เราต้องออกไปท้าแดดก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะการที่เราดูแลรักษาผมเป็นประจำจะช่วยให้ผมของเรามีความแข็งรงมากยิ่งขึ้น

 

สนับสนุนโดย  aecasino

น้ำ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องสุขภาพ เรื่องของผิวพรรณ น้ำก็ย่อมเป็นส่วนประกอบสำคัญทั้งนั้น เพราะน้ำจะช่วยเข้าไปเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย หรือเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของเรา โดยปกติแล้วเราจะสามารถสังเกตได้ว่า เมื่อไหร่ที่เราดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อร่างกาย หรือร่างกายมีภาวะขาดน้ำ สุขภาพร่างกายของเราก็จะค่อนข้างไม่แข็งแรง อีกทั้งทำให้ผิวของเราไม่อิ่มน้ำ

และส่งผลให้ผิวชองเราแห้งนั่นเอง ดังนั้น ในความเป็นจริงแล้ว มนุษย์เราทุกคนจำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำให้ครบอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน จึงจะเพียงพอต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม เชื่อในสมัยนี้ก็ยังคงมีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจ และยังตั้งคำถามกันว่าทำไมเราต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็ต้องฉี่ออกมาอยู่ดี และวันนี้เราจะมายกตัวอย่างการดื่มน้ำว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมากแค่ไหน และส่งผลดีต่อด้านไหนในร่างกายของเราได้บ้าง ไปดูกันเลย

การดื่มน้ำช่วยลดน้ำหนัก รู้หรือไม่ว่าเมื่อร่างกายของเราได้รับน้ำเข้าไปเป็นจำนวนมาก จะสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้ เพราะน้ำจะช่วยเข้าไปเพิ่มพลังงาน และทำให้เรามีความอยากอาหารน้อยลงอีกด้วย ยิ่งถ้าเรากินเยอะมากแค่ไหน ก็อาจช่วยให้อยู่ท้องได้มากขึ้น อีกทั้งยังส่งผลดีต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้านอีกด้วย ดังนั้น หากใครที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ควรหันมาดื่มน้ำกันเยอะ ๆ ถึงแม้ว่าจะช่วยไม่ได้มาก หรือไม่ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว แต่อย่างน้อย ก็ช่วยให้เราลดน้ำหนักแบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปได้

การดื่มน้ำทำให้ผิวสวย การจะมีผิวที่สวยแลดูมีสุขภาพนั้น จะต้องดีทั้งภายในและภายนอก โดยปัจจัยสำคัญของการดูแลผิวที่ดีก็คือการดื่มน้ำเข้าช่วย บางคนอาจจะคิดว่าอยากมีผิวสวยทำไมต้องดื่มน้ำ แน่นอนว่าน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ไม่ทำให้ร่างกายของเราเกิดการขาดน้ำ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายเกิดการสมดุลไปทุกส่วนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำเยอะ ๆ นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักได้แล้วนั้น ยังส่งผลทำให้เรามีผิวพรรณที่สวย อิ่มน้ำ และดูมีสุขภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

การดื่มน้ำช่วยขับสารพิษ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การดื่มน้ำนั้นสามารถขจัดสารพิษที่อยู่ในร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าไตมีหน้าที่สำคัญคือ การขับสารพิษของจากร่างกาย ดังนั้น เมื่อร่างกายของเราได้รับน้ำที่เพียงพอ ก็จะยิ่งเข้าไปช่วยขับสารพิษออกมาได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้อีกด้วย 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    v9bet

การที่เพิ่มต้นไม้ในการตกแต่งบ้านจะทำให้บ้านของเราได้มีความน่าอยู่และสดชื่นแล้วนั้น จะสามารถที่จะทำให้บ้านของเรามีบรรยากาศแบบธรรมชาติที่ได้มีความน่าอยู่มากๆขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะสามารถที่จะมีการสร้างสุขภาพของเราได้เป็นอย่างดี และจะสามารถที่จะทำให้เราได้มีความสบายตามากๆอีกด้วย ซึ่งต้นไม้บ้างชนิดนั้นก็จะสามารถที่จะเพิ่มความสดชื่นในตอนที่เราได้มีการตื่นนอนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

หรือจะสามารถที่จะทำให้ผู้คนที่มีการนอนที่ยากจะสามารถนอนได้อย่างง่าย ในการที่เราได้มีการวางไว้ที่ห้องนอนอีกด้วย และจะมีต้นไม้ที่ได้มีความน่าสนใจที่จะมีการนำไปไว้ในห้องนอน หรือสามารถที่จะนำไปไว้ในบ้านนั้นจะมีดังนี้

  1. เฟิร์นบอสตัน

เป็นต้นไม้ที่เราต้องมีการดูแลเป็นพิเศษในการดูแล ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ได้มีความสวยงาม และได้มความนิยมในการปลูกไว้ในบ้าน หรือห้องนอนมากๆ เพราะว่าต้นไม้ชนิดนี้นั้นจะมีการช่วยในการดูดสารพิษต่างๆนั้นได้เป็นอย่างดี และสามารถที่จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นมากๆในตอนเช้า แต่ต้นไม้ชนิดนี้นั้นจะเป็นต้นไม้ที่มีความต้องการน้ำนั้นสูงมาก ซึ่งอยากต่อการที่จะดูแลมากๆ

2.พลูด่าง

เป็นต้นไม้ที่สามารถทำการปลูกได้อย่างหลากหลาย และเป็นต้นไม้ที่มีการทนทานต่อสภาพแวดล้อมนั้นมากๆ ซึ่งในการที่เราได้มีการปลูกในสถานที่ไม่มีแสงนั้นก็ยังจะสามารถที่จะมีกาเจริญเติบโตขึ้นได้อีกด้วย และใบของต้นพลูด่างนี้จะมีให้เราสามารถที่จะทำการเลือกปลูกได้อย่างหลากหลายอีกด้วย เช่น สีขาว สีชมพู และสีแดง เป็นต้นซึ่งต้นไม้นี้จะมีการที่ดูดสารพิษต่างๆ และสามารถที่จะทำให้เราได้มีการนอนได้อย่างสบายได้อีกด้วย

  1. ลิ้นมังกร

เป็นต้นไม้ที่มีความนิยมอย่างมากในการนำไปไว้ในห้องนอน ซึ่งในการที่เราจะมีการปลูกต้นไม้นี้ เราจะสามารถที่จะดูแลได้ง่าย เพราะต้นลิ้นมังกรนี้ต้องการน้ำเพียงแค่2-3ครั้งต่ออาทิตย์เพียงเท่านั้น และเป็นต้นไม้ที่ไม่ได้ต้องการแสงมาก ซึ่งต้นนี้นั้นมีความเหมาะสมอย่างมากสำหรับผู้ที่ได้มีโรคภูมิแพ้ และต้องการที่จะฟอกอากาศให้มีความสดชื่นมากๆ

  1. เดหลี

เป็นต้นไม้ที่มีความสวยงาม ซึ่งสามารถที่จะทำการตกแต่งบ้านได้ และการที่เราได้มีการปลูกต้นไม้ชนิดนี้นั้น จะเป็นต้นไม้ที่ไม่ได้ต้องการน้ำมากมาย ซึ่งต้องการน้ำแค่เพียง2ครั้งต่อ อาทิตย์เพียงเท่านั้น และต้นเดหลีนี้จะเป็นส่วนที่ช่วยในการลดโรคต่างๆ เช่นโรคทางเดินหายใจ โรคหอบหืด และโรคภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดีมากๆอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย    สมัคร20ฟรี100 สล็อต